วันที่ 28 ธันวาคม 2566 เวลา 15:55 น.
28 ธันวาคม 2566 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 7/2566 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา นั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้มีการติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคไอกรน โดยเฉพาะพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ที่มีการระบาดในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้น โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีความเป็นห่วงในสถานการณ์ไอกรนในพื้นที่ที่มีการระบาดอย่างมาก
นพ.ธงชัย กล่าวว่า สถานการณ์ระบาดของไอกรนตอนนี้ ยังทรงตัวอยู่ แต่ก็มีความกังวลว่าจะมีการระบาดในพื้นที่ใหม่ ดังนั้น เราจึงต้องเร่งควบคุมโรคในพื้นที่ระบาดให้ได้เร็วและมีวัคซีนครอบคลุมมากขึ้น แนวทางการดูแลและควบคุมการระบาดของโรคไอกรน ทางกรมควบคุมโรคจะเน้นย้ำไปในเรื่องของการฉีดวัคซีนให้มีความครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งไม่นานมานี้ทางกรมฯ ได้ทำเรื่องถึงสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้มีการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์ (aP) สำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพื่อส่งภูมิต้านทานไปสู่ทารกแรกเกิดหรือผู้ที่ต้องการกระตุ้นภูมิฯ ต่อไอกรนอย่างเดียว เนื่องจากที่ผ่านมาการฉีดวัคซีน aP เพื่อควบคุมโรคไอกรน ทางกรมฯ เป็นผู้จัดหาวัคซีนเอง ทั้งนี้ สปสช. เพิ่งมีหนังสือตอบรับกลับมาว่าได้เพิ่มวัคซีนไอกรนในหญิงตั้งครรภ์เข้าไปอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้การควบคุมโรคดำเนินได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น
“เดิมวัคซีนชนิดไร้เซลล์ไม่ได้อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ เพราะที่ผ่านมานั้นจะเป็นการฉีดวัคซีนรวมใน 3 โรค ทั้งคอตีบ บาดทะยักและไอกรน แต่วัคซีนนี้เป็นการฉีดเฉพาะไอกรนเพียงอย่างเดียว”
กรมควบคุมโรคจะมีความร่วมมือกับทางสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จ.สงขลา ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้ประสานกับทางองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เนื่องจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หลายแห่งได้มีการถ่ายโอนไปยัง อบจ.แล้ว อย่างเช่นในปัตตานีมีการถ่ายโอนไปแล้วทุกแห่ง ซึ่งทาง สธ. เองก็มีแผนการวิเคราะห์ข้อมูลหลังการถ่ายโอนในประเด็นของความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมโรค ซึ่งเมื่อมีประเด็นไอกรนนี้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีในการเก็บข้อมูลเพื่อชี้วัดว่าหลังการถ่ายโอนแล้วเกิดผลดีผลเสียอย่างไรบ้างหรือไม่