หน้าแรก > อาชญากรรม

ปอศ.จับหนุ่มแบงก์แอบถอนเงินลูกค้าคุณยายวัย 80 ปี เสียหาย 2 ล้านบาท

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 23:04 น.


ตำรวจสอบสวนกลางโดย บก.ปอศ. จับกุมผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารแอบถอนเงินลูกค้าคุณยายวัย 80 ปี มูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ช. , พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.พัฒนา  ฉายาวัฒน์ , พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ธนิต กรปรีชา , พ.ต.ท.กริช วรทัต ,พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี รอง ผกก.5 บก.ปอศ. นำโดย พ.ต.ท.ประดิษฐ์ สุวรรณดี, พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.5 บก.ปอศ., พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศษฐกิจ  

ร่วมกันจับกุม นายพรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 104/2566 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ในความผิดฐาน "ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง และพนักงานของสถาบันการเงิน กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นการเสียหายแก่สถาบันการเงิน" พร้อมทรัพย์สินหลายรายการได้แก่ รถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น X3 จำนวน 1 คัน ,รถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น 320D จำนวน 1 คัน , เอกสารข้อตกลง จำนวน 1 แผ่น , สุมดบัญชี TMB จำนวน 1 เล่ม , สมุดบัญชีธนาคารกสิรไทย จำนวน 7 เล่ม ,เอกสาร ต่าง ๆ จำนวน 1 ชุด ,โทรศัพท์ มือถือยี่ห้อ ไอโฟน 14 pro จำนวน 1 เครื่อง

โดยติดตามจับกุมได้ที่ บ้านเลขที่ 79/56 ถ.พุทธมนฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 ได้มีนายนายโชติมัน (สงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ธนาคารรับมอบอำนาจจากธนาคารเข้าแจงความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. กรณีนางกมล(ขอสงวนนามสกุล) ลูกค้าของธนาคาร(ซึ่งเป็นคุณยายวัย 80 ปี) เข้ามาร้องเรียนธนาคารว่า เงินในบัญชีหายไป จำนวน 2,000,000 บาท จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 10:45 น. นางกมลฯ ผู้เสียหาย ได้เดินทางไปธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งย่านถนนประชาอุทิศ เพื่อทำการเปิดบัญชีออมทรัพย์ สมัครบัตรเดบิตและถอนเงินเพื่อจะโอนเงินไปยังบัญชีที่เปิดใหม่และโอนให้กับบุตรชาย

โดยนายพรชัย (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นพนักงานธนาคารทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้จัดการคอยให้บริการกับลูกค้า ในวันเวลาดังกล่าว ได้เข้ามาดูแลและช่วยทำธุรกรรมให้ โดยนายพรชัยฯได้ให้นำเอกสารมาให้นางกมลฯลงลายมือชื่อ จำนวน 2 ฉบับ โดยได้แอบนำใบคำขอถอนเงินโดยเขียนยอดเงินจำนวน 2,000,000บาท มาให้นางกมลฯลงลายมือชื่อด้วย จากนั้นได้มาทำการถอนเงินออกจากบัญชีของนางกมลฯจำนวน 2,000,000 บาท และนำสมุดบัญชีและบัตรเดบิตมามอบคืนให้กับผู้เสียหาย และจากการตรวจสอบพบว่า ใบคำขอถอนเงินดังกล่าวได้สูญหายไปจากธนาคารสาขา โดยนางกมลฯ(ผู้เสียหาย) ได้ตรวจพบว่าเงินในบัญชีของตนหายไป จำนวน 2,000,000 บาท จึงได้ร้องเรียนกับทางธนาคาร ว่าตนไม่เคยเบิกถอนเงินสดยอดดังกล่าวมาก่อนแต่อย่างใด

ต่อมา พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ได้ทำการรวบรวมพยานขออนุมัติหมายจับ นายพรชัยฯ ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง และพนักงานของสถาบันการเงิน กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นการเสียหายแก่สถาบันการเงิน” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334(11) และพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน มาตรา 147 ประกอบมาตรา 145

จนกระทั่งวันที่ 3 ก.พ. 2566 พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ  กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมนายพรชัยฯ ผู้ต้องหา และตรวจพบทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ   ด้านนาพรชัยฯ (ผู้ต้องหา) ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ต้องหารายนี้ส่ง พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. กล่าวว่าในคดีนี้ผู้ก่อเหตุมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการธนาคาร อาศัยความสนิทสนมและความไว้ใจของลูกค้าธนาคารซึ่งเป็นผู้สูงอายุ จึงฉวยโอกาสลงมือก่อเหตุ ถึงแม้ว่าในชั้นนี้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่จากการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจน ประกอบกับในคดีนี้เป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูง และเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบทรัพย์สินต้องสงสัยถึงการได้มาจำนวนหลายรายการ น่าเชื่อว่าผู้ต้องหาอาจจะเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อนหลายครั้ง ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนสวบสวนขยายผลดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

และขอฝากถึงพี่น้องประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกรรมทางการเงิน การลงลายมือชื่อทุกครั้งให้ตรวจสอบโดยละเอียด และอย่าหลงเชื่อหรือไว้ใจแม้เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของสถานบันการเงินนั้นๆ ทุกครั้งที่ใช้บริการหรือทำธุรกรรมควรมีบุตรหลานหรือญาติที่มีความรู้และรอบคอบไปด้วย หากมีเบาะแสเกี่ยวกับบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยสามารถแจ้งเบาะแสมาได้โดยตรงที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง Website : https://cib.go.th/ หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม