งานศพแม่เฒ่าวัย 84 เจ้าของสวนทุเรียนนนท์ ลูก-หลานร้องคาราโอเกะหน้าเมรุ ให้ท่านเป็นครั้งสุดท้าย

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 23 ธ.ค.66 ที่บริเวณเมรุ วัดบางรักน้อย ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี ได้มีพิธีฌาปนกิจศพของ นางสมส่วน (สงวนนามสกุล) อายุ 84 ปี เจ้าของสวนทุเรียนนนท์ ย่านบางรักน้อย เสียชีวิตจากโรคชราภาพ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.66 โดยลูกหลานและญาติได้ตั้งสวดอภิธรรมเป็นเวลา 7 วัน จนวันนี้ได้มีพิธีฌาปนกิจขึ้น ซึ่งหลังจากทำพิธีทอดผ้าบังสุกุล บรรดาแขกที่มาร่วมงานได้ร่วมวางดอกไม้จันทร์ และรับขอชำร่วยเป็นข้าวหอมมะลิถุงละ 1 กก.แล้วได้มีพิธีฌาปนกิจจริง ซึ่งมีบรรดาลูกหลานและญาติได้จัดให้มีการร้องคาราโอเกะ เพราะเป็นสิ่งที่ผู้เสียชีวิตชื่นชอบและสั่งเสียไว้ก่อนที่จะเสียชีวิตไป

บรรยากาศหน้าพระเมรุ มีการติดลำโพง เครื่องเสียง และจอคอมพิวเตอร์ พร้อมกับตั้งเก้าอี้สีแดงไว้สมมุติว่าให้ผู้เสียชีวิตนั่งฟังลูกหลานร้องเพลง โดยมีญาติทยอยขึ้นมาร้องเพลงที่ผู้เสียชีวิตชื่นชอบ รวมทั้งญาติได้มาร่วมเต้นประกอบ ซึ่งทุกคนอยู่ในอารมณ์ที่ไม่เศร้าโศกตามที่มีการสั่งเสียไว้

แต่เมื่อถึงเวลาที่ นายพนม อายุ 58 ปี ลูกชายคนโต ต้องขึ้นร้องเพลง ให้ผู้เป็นมารดาครั้งสุดท้าย กลับร้องเพลงด้วยน้ำตาทำให้บรรดาญาติเศร้าไปด้วย แต่ก็ยังร้องเพลงให้มารดาจนจบ ซึ่งนายพนม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ตนและลูกหลานคนอื่นจัดร้องคาราโอเกะหน้าพิธีเผาศพแม่ เพราะแม่ชอบความสนุกสนาน ชอบเสียงดนตรี และคุณแม่ได้สั่งเสียไว้ว่าถ้าท่านเสียชีวิตไปให้ทุกคนมาร้องเพลงคาราโอเกะ ให้สนุกสนานกัน ไม่ให้ลูกหลานเสียใจ  โดยก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตท่านชอบนั่งฟังลูกกลานร้องเพลง นั่งฟังได้ทั้งคืน เวลาที่บ้านมีงานก็จะให้เอาคาราโอเกะมาให้ร้อง และถ้าไปงานบ้านญาติมีร้องคาราโอเกะท่านก็จะอยู่ฟังไม่ยอมกลับบ้าน

วันนี้ก็ถือว่าทำให้ท่านเป็นครั้งสุดท้าย มีทั้งเพื่อนบ้าน ลูกหลาน และญาติร่วมกันร้องให้ท่านฟัง ก็อยากบอกให้แม่ได้ฟังเพลงที่ท่านชอบ คือเพลงสาวบางกรวย ท่าน้ำเมืองนนท์  และเพลงแนวอรวี สัจจานนท์ที่ท่านชอบมาก นอกจากนี้เมรุแห่งนี้คุณแม่บริจาคสร้างถวายวัดไว้เมื่อ 14 ปีที่แล้วเป็นเงินจำนวน 4 ล้านบาท แม่ท่านเล่าให้ฟังว่าทางวัดห้ามไว้ไม่ให้ติดรูปท่านเป็นคนสร้างถวาย ให้ติดรูปท่านหลังจากท่านเสียไปแล้ว ครั้งนี้จึงได้ติดรูปคุณแม่ไว้ที่เมรุแห่งนี้ด้วย