หนุ่มชาวเวียดนามโดนแทงไส้ทะลัก คาดเพื่อนร่วมชาติก่อเหตุแล้วหลบหนีพร้อมแฟนสาว จ.ขอนแก่น 

เมื่อเวลา 20.45 วันที่ 23 ธ.ค.2566 น. พ.ต.อ.ยศวัฒน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.เมธี ศรีวันนา รอง ผกก.ป. สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมตำรวจสายตรวจ และตำรวุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เข้าตรวจสอบภายในห้องพักแห่งหนึ่ง ซ.สุขสันติ 8 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังได้รับแจ้งจากกู้ภัยทางหลวงขอนแก่น ว่ามีเหตุคนถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีด ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อาการสาหัส เนื่องจากถูกแทงที่หน้าท้องไส้ทะลักออกมา

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นหอพักชั้นเดียว ห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องหมายเลข 4 ภายในห้องพบคราบเลือดอยู่ใกล้ที่นอน และภายในห้องยังพบขวดเบียร์ แก้ว และหมูย่าง ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายฮอง อายุ 37 ปี ชาวเวียดนาม แพทย์ต้องรักษาบาดแผลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากไส้ได้ทะลักออกมาจากหน้าท้องเป็นเวลานาน จนทำให้ไส้เริ่มจะแห้งและยังมีอาการเสียเลือดมาก

นาย ม. (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นคนที่เช่าหอพักที่อยู่ภายในหอพักที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า ในวันนี้ช่วงเวลาประมาณ 17.00น. ที่บริเวณหน้าห้องที่เกิดเหตุมีการก่อไฟเพื่อที่จะย่างหมูกิน โดยมีคนทั้งผู้ชายและผู้หญิง ยืนอยู่ประมาณ 4-5 คน ต่อมาเวลาประมาณ 19.00น.เศษ ก็ได้ยินเสียงโวยวายทะเลาะกันเสียงดังเป็นเสียงผู้ชาย ซึ่งจับใจความไม่ได้เพราะว่าเป็นภาษาเวียดนาม ดังออกมาจากห้องหมายเลข 4  หลังจากนั้นก็เงียบไปจนกระทั่งมีเสียงเขย่าประตูห้องดังลั่น ต่อมาก็มีแสงไฟรถกู้ภัยทางหลวงขอนแก่นเข้ามาในห้อง และเมื่อออกไปดูจึงพบว่ามีคนถูกแทงจนไส้ไหลภายในห้อง ปกติห้องดังกล่าวจะมีหนุ่มสาวชาวเวียดนามที่เป็นแฟนกันอาศัยอยู่ และเมื่อวานตอนกลางวัน ก็ได้ยินเสียงทั้งสองคนทะเลาะกันด้วยก่อนจะมาพบว่า มีคนสัญชาติเวียดนามถูกแทงในห้องนี้

พ.ต.อ.ยศวัฒน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าของห้องที่มาเช่า เป็นชาวเวียดนามและเป็นแฟนกัน ฝ่ายชายชื่อ นายฮา อายุ 33 ปี โดยมีอาชีพขายปลาหมึกแห้งขับรถจักรยานยนต์พ่วงตะเวนขายในตัวเมืองขอนแก่น หลังเกิดเหตุทั้ง 2 คนได้หายไปพร้อมรถจักรยานยนต์ ทิ้งไว้เพียงปลาหมึกที่หนีบไว้บนราวเท่านั้น ขณะนี้ได้ให้ตำรวจชุดสืบสวน ได้เร่งติดตามแฟนสาวชาวเวียดนามซึ่งเป็นเจ้าของห้องเช่า เพราะหลังเกิดเหตุได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย และเชื่อว่าทั้งคู่จะรู้ดีว่าใครเป็นคนลงมือ

เครดิต ชุมชนข่าวขอนแก่น