วันที่ 3 ก.พ. 66 พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานด้านการศึกษาตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย (ประถม)  พร้อมเปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย เป็นโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครที่มีนักเรียนมากที่สุด 4,559 คน และปกติทุกโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครจะมีธงสีต่าง ๆ บอกค่าฝุ่นแต่ละวัน

สำหรับวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 ที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยเป็นธงสีส้มหมายความว่าสถานการณ์ยังอันตรายอยู่แต่น้อยกว่าเมื่อวานที่เป็นธงแดง ซึ่งเป็นวันที่สองที่ค่าฝุ่นยังสูงและยังมีผลต่อสุขภาพเด็ก แต่ดีกว่าเมื่อวานเล็กน้อย ซึ่งหากสถานการณ์รุนแรงผู้บริหารโรงเรียนสามารถใช้ดุลยพินิจของตนในการตัดสินใจสั่งปิดโรงเรียนตามแนวทางที่กรมควบคุมมลพิษวางไว้ได้ สืบเนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 66 ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเกิน 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ต่อเนื่องอีก 2 วัน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงได้มีการออกประกาศขอความร่วมมือประชาชนให้ Work from Home งดการออกจากบ้าน ไม่ออกมารับความเสี่ยงจากปริมาณฝุ่นที่สูงขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมาโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครบางโรงเรียนมีการสั่งปิด แต่บางโรงเรียนไม่ได้ปิด

อย่างไรก็ตามต้องมีการสื่อสารอย่างใกล้ชิด โดยถ้ามีประเด็นสำคัญ ทางสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร กรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมีการแจ้งเตือนและขอความร่วมมือประชาชนในการปฏิบัติตนด้านต่าง ๆ ซึ่งอยากขอความร่วมมือภาคเอกชนและประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 รวมถึงติดตามสถานการณ์ฝุ่นอย่างต่อเนื่องใกล้ชิดเพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือความเสี่ยงได้อย่างทันท่วงที

ด้าน ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ กล่าวเสริมว่า โรงเรียนได้ให้ความรู้กับนักเรียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อวานค่าฝุ่น PM2.5 สูงมากเป็นธงแดง โรงเรียนได้งดการจัดกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหมด ให้เด็กอยู่ในห้องเรียนและใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เปิดสปริงเกอร์ช่วยลดละอองฝุ่น สำหรับวันนี้ธงสีส้มยังมีภาวะอันตราย ได้งดกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหมด ให้เคารพธงชาติหน้าห้องเรียน เปิดสปริงค์เกอร์ดักฝุ่น และปฏิบัติตามมาตรการที่กรุงเทพมหานครกำหนด ส่วนเรื่องการปิดโรงเรียนนั้นยังไม่มีการปิด แต่หากจำเป็นต้องให้เด็กหยุดอยู่บ้านจะเป็นการปรับให้มีการเรียนการสอนระบบออนไลน์แทน แต่คิดว่าการที่เด็กมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนจะปลอดภัยกว่าอยู่บ้าน เพราะหากเด็กอยู่บ้านแต่ผู้ปกครองต้องทำงานไม่สามารถหยุดงานดูแลเด็กได้ เด็กอาจจะไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือวิ่งเล่นข้างนอก แต่หากอยู่ที่โรงเรียนจะมีครูคอยดูแลน่าจะดีกว่าให้เด็กอยู่ที่บ้าน