วันที่ 21 ธันวาคม 2566 เวลา 13:32 น.
กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการกำลัง ร่วมแถลงข่าว บริเวณลานดินภายในหมู่บ้านอาดี่ หมู่ 20 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย หลังกำลังตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อจับกุมเครือข่ายนักบินกลุ่มลำเลียงยาเสพติดชายแดนภาคเหนือรายสำคัญ 10 จุด ในพื้นที่ บ้านอาดี่ ต.แม่ยาว อ.เมือง, อ.เวียงแก่น, อ.เชียงของ จ.เชียงราย และ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
ทั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งเป็นระดับสั่งการ 1 ราย คือ นาย ท. (นามสมมุติ) และพวกที่ลำเลียงยาเสพติดอีก 2 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 5,000,000 บาท
สืบเนื่องจาก คดีแรก เมื่อวันที่ 19 ก.ย.66 เวลา 21.30 น. ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามพฤติกรรมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดยาเสพติด พื้นที่ชายแดนจากพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งใช้รถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน จฉ 93XX เชียงใหม่ ลำเลียงยาเสพติด ไอซ์ จำนวน 1,000 กก. จากพื้นที่พักคอย ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนใน และได้มีการสกัดจับกุมตรวจยึดได้ในพื้นที่ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย สำหรับเครือข่ายนี้ได้ก่อเหตุยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเป็นเหตุให้ ด.ต.วีระวัฒน์ คำดี ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 เสียชีวิตทันที ต่อมาสามารถสืบสวนขยายผลทราบถึงเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว ทั้งในส่วนกลุ่มรับจ้างลำเลียง และกลุ่มเครือข่ายทำหน้าที่เก็บรักษายาเสพติดไว้ในพื้นที่พักคอย และนำส่งมอบให้กับกลุ่มลำเลียงดังกล่าว จึงได้ทำการขออนุมัติหมายจับ จำนวน 7 ราย คือ นายเอ (นามสมมุติ) พร้อมพวก
คดีที่ 2 ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ต.ค.66 เวลา 22.00 น. ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ร่วมกันสืบสวนและจับกุม นายสุทธิศักดิ์ฯ กับพวก 4 คน พร้อมของกลางยาเสพติด ไอซ์ จำนวน 591 กก. ซุกซ่อนภายในรถยนต์กระบะ ทะเบียน ผต 64XX เชียงราย ในพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งยาเสพติดดังกล่าวถูกลำเลียงจากพื้นที่ชายแดนนำเข้ามาเก็บไว้ในพื้นที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก่อนที่จะถูกส่งมอบให้กับเครือข่ายลำเลียง จนถูกตรวจค้นจับกุมดังกล่าว ชุดจับกุมทำการสืบสวนขยายผลถึงผู้สั่งการและบุคคล ในเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดดังกล่าวและทำการขออนุมัติหมายจับ จำนวน 2 ราย คือ นาย อ. (นามสมมุติ) พร้อมพวก
คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 26 พ.ย.66 บช.ปส. โดย กก.2 บก.ปส.3 และ บก.ขส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามพฤติกรรมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ พบว่าจะใช้รถกระบะลักษณะตีคอก ก 13XX (ป้ายแดง) กำแพงเพชร และ รถกระบะอีซูซุ ยX 81XX เชียงใหม่ ลำเลียงยาเสพติดจาก จ.เชียงใหม่ ไปยังพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยอำพรางด้วยพืชผลทางการเกษตร เป็นยาบ้า 10 ล้านเม็ด พร้อมผู้ต้องหา 5 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจยึด สามารถสืบสวนขยายผลทราบว่าผู้สั่งการเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว คือ นาย ท. (นามสมมุติ) จึงได้ทำการขออนุมัติหมายจับ เพื่อทำการสืบสวนจับกุมขยายผล
คดีที่ 4 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 14.00 น. ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกันเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารหน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก และ กองกำลังผาเมือง ทำการสืบสวนเครือข่าย นายจอ ใช้รถยนต์กระบะทะเบียน ยต 19XX เชียงใหม่ ซึ่งลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เข้ามาพักคอยไว้ในพื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย ได้ทำการตรวจยึด ยาบ้า จำนวน 1,118,000 เม็ด ขณะเตรียมนำส่งมอบให้กับเครือข่ายเพื่อลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนใน เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจยึดได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งดำเนินคดี และขยายผลการจับกุมตรวจยึด และตรวจค้นในพื้นที่พักคอยยาเสพติด ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
ด้าน พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. กล่าวว่า ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ เป็นการขยายผลบุคคลเครือข่ายในพื้นที่พักคอย และดำเนินการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนอย่างจริงจัง ซึ่งกำหนดสถานะของพื้นที่ชายแดนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ชายแดน 15 อำเภอ 3 จังหวัด ได้แก่ 6 อำเภอของ จว.เชียงราย, 5 อำเภอของ จ.เชียงใหม่ และ 4 อำเภอของ จ.นครพนม โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาภายในประเทศ