หน้าแรก > สังคม

พระยอมเตือนสติ อย่าลืมพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง หลังผู้คนแห่เชื่อเด็กชายวัย 7 ขวบอ้างตัวได้ภูมิธรรม เพราะเป็นบุตรพระศายกมุนีและร่างอวตารเพชรภัทรนาคานาคราช

วันที่ 7 ธันวาคม 2566 เวลา 05:08 น.


พระยอมเตือนสติ อย่าลืมพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง หลังผู้คนแห่เชื่อเด็กชายวัย 7 ขวบอ้างตัวได้ภูมิธรรม เพราะเป็นบุตรพระศายกมุนีและร่างอวตารเพชรภัทรนาคานาคราช

จากกรณี ที่มีเด็กชายวัย 7 ขวบ ที่อ้างตนว่าเป็นร่างอวตารองค์เพชรภัทรนาคานาคราชลงมาจุติและบุตรของพระศายกมุนี จนกลายเป็นผู้ทรงภูมิความรู้ด้านวิปัสสนากรรมฐานเพื่อเผยแผ่ธรรมะด้านวิปัสสนากรรมฐานให้ผู้ที่สนใจ จนโด่งดังและมีผู้คนติดตามในแอปพลิเคชันต่างๆ โดยล่าสุดได้จัดกิจกรรม Work Shop วิปัสสนา ที่จะปรับกลยุทธ์การสอนวิปัสสนาที่เข้มข้นกว่าเดิม เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมาในจังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้คนแห่ไปเข้าร่วมกิจกรรมหลายร้อยคนนั้น

วันที่ 6 ธ.ค.66 เมื่อเวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามความคิดเห็นกับทางพระราชธรรมนิเทศน์ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ในเรื่องดังกล่าว

โดยพระพยอมกล่าวแสดงความเห็นว่า บุตรของพระพุทธเจ้านั้นไม่มี มีแต่บุตรของสิทธัตถะที่ชื่อราหุล แต่ก็มีบางคำที่ถูกนำมาใช้คือคำว่า พุทธบุตร ซึ่งแปลว่าบุตรสาวกของพระพุทธเจ้า แต่ไม่ค่อยนิยมนำมาใช้กัน เรื่องการรู้ธรรมหรือทรงภูมิธรรมได้ด้วยตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยนั้น อาจจะมีอัจฉริยะเกิดขึ้นได้ในระดับหนึ่งมากกว่าเด็กคนอื่นหรือระลึกได้มากกว่า ก็เลยสร้างปาฎิหารย์ได้มากกว่าเด็กคนอื่น ทำให้คนเชื่อถือได้มากกว่าเด็กคนอื่นๆ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเด็กรุ่นใหม่สมัยนี้พูดแสดงแฝงธรรมได้ดีกว่าซึ่งยุคก่อนที่ไม่มี คนก็เลยแตกตื่นกัน ซึ่งเรื่องนี้คำสอนของพระพุทธเจ้าสอนว่า อย่าเพิ่งรีบรับและอย่าเพิ่งรีบปฎิเสธ เพราะถ้ารีบรับไปแล้วเกิดล้มเหลวตามมาก็จะกลายเป็นถูกลวง แต่ถ้ารีบปฎิเสธเลย เกิดเขามีดีจริงเราก็เสียโอกาสไป สู้ว่าลองตามดูเขาไปก่อนแต่อย่าไปหลงใหลจนลืมพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไป ตอนนี้เขายังเป็นเด็กอยู่ยังมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงต่างๆ อยู่อีกมาก อาจจะไปรุ่งเรืองหรือตกต่ำลงมาก็ได้

พระพยอมกล่าวอีกว่า เรื่องที่เห็นว่ามีผู้ใหญ่ที่อาวุโสมากกว่าไปก้มกราบไหว้เด็กชายนั้น เป็นการกราบไหว้คุณธรรมที่สูงกว่าตามที่เขาเชื่อกันมา เพราะสาเหตุส่วนใหญ่มาจากผู้คนทำไปตามความเชื่อในเรื่องอย่างนี้ เพราะไม่ค่อยเข้าวัดเข้าวา จนขาดพื้นฐานความรู้ในเรื่องธรรมะจนมีไม่เพียงพอ ก็เลยอยากรู้อยากเรียนอะไรที่มันข้ามขั้น ไม่อยากรู้อะไรที่มันลึกซึ้งในพระไตรปิฎกก็เลยอยากรู้อะไรในเรื่องฉาบฉวยแบบนี้  ส่วนเรื่องปัจจัตตังนั้น เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสรู้ได้ด้วยตัวของท่านเองมาก่อน จากนั้นคนรุ่นหลังต่อๆ มา ก็มาตามหลังจากที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไปเท่านั้น รู้ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น ไม่มีใครรู้ลึกซึ้งมาก่อน เรื่องปัจจัตตังกับคนทั่วไปอาจจะมีก็ได้หรือไม่มีก็ได้ ดังนั้นอะไรก็ตามที่เป็นเรื่องหวือหวาหรือข่าวลือ ให้ตามดูกันในระยะยาว จะได้ไม่ผิดหวัง ไม่พลาดพลั้ง ให้อยู่กับหลักที่ว่าไม่รีบรับและไม่รีบปฎิเสธ ให้ดูเหตุดูผล ดูกาลเวลา ดูความเป็นไปได้ พิสูจน์ได้ ไม่ใช่มาแวปเดียวแล้วก็หายไปอย่างที่ผ่านๆ มา

พิรฎา 

 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม