วันที่ 7 ธันวาคม 2566 เวลา 04:30 น.
สตม.รวบหนุ่มออสซี่ระดับแกนนำแก๊ง HELLS ANGELS ใช้หนังสือเดินทางผู้อื่นเข้าไทย พัวพันคดียาเสพติดและอาวุธปืนหลายคดี
วันที่ 6 ธ.ค.66 เวลา 13.30 น.ณ ห้องสวนพลู (ห้องแถลงข่าว) ชั้น 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารพระชนมพรรษา 60 พรรษา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม พร้อมกำลังชุดจับกุม ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้
1.สตม.รวบหนุ่มออสซี่ ระดับแกนนำแก๊ง HELLS ANGELS ใช้หนังสือเดินทางผู้อื่นเข้าไทยพบพัวพันคดียาเสพติดและอาวุธปืนหลายคดีและประวัติอาชญากรรมเพียบ
บก.สส.สตม. จับกุม MR.ELICES หรือเอเลียส (นามสมมติ) อายุ 31 ปี สัญชาติออสเตรเลีย ในความผิดฐานใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบเนื่องจาก บก.สส.สตม. ได้สืบทราบว่ามีบุคคลสัญชาติออสเตรเลีย ได้ใช้หนังสือเดินทางของคนต่างชาติ สัญชาติอิตาลี เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการประสานงานกับทางสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยและได้ร่วมทำการสืบสวน โดยพบว่า ได้มีชาย สัญชาติออสเตรเลีย ชื่อ นายเอเลียส สัญชาติออสเตรเลีย ได้ใช้หนังสือเดินทางประเทศอิตาลี ซื่อ MR.GJINI เช่าเครื่องบินส่วนบุคคลเดินทางเข้ามาที่ประเทศไทย โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำฐานข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือของบุคคลที่ใช้หนังสือเดินทางประเทศอิตาลี ซื่อ MR.GJINI ส่งเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลประเทศออสเตรเลีย พบว่าลายพิมพ์นิ้วมือ นั้นตรงกับบุคคลที่ชื่อ นายเอเสียส และจากการตรวจสอบรูปภาพในระบบสารสนเทศ ตม. พบว่าบุคคลที่ใช้หนังสือเดินทางของประเทศอิตาลี ชื่อ MR.GJINI คือ นายเอเลียส จริง โดยได้เดินทางเข้าประเทศไทย ด้วยวีซ่าประเภท ผ.30 ซึ่งเป็นวีซ่านักท่องเที่ยวที่สามารถอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 30 วันอีกทั้งนายเอเลียส ยังเป็นผู้ต้องหารายสำคัญของประเทศออสเตรเลีย
ซึ่งเป็นแกนนำของแก๊ง HELLS ANGELS ที่เป็นเครือข่ายจำหน่ายยาเสพติด ลักลอบนำเข้ายาเสพติดและอาวุธปืนโดยมีหมายจับที่เป็นการกระทำความผิดจำนวน 38
กระทง โดยเป็นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนจำนวน 36 กระทง ความผิดเกี่ยวกับการนำเข้ายาเสพติดเมทแอมเฟตามีน จำนวน 14 กิโลกรัม จำนวน 1 กระทง และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จำนวน 1กระทง อีกทั้งยังมีประวัติอาชญากรรมเกี่ยวกับการทำร้ายเจ้าหน้าที่และการปล้นทรัพย์ด้วย
ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายเอเลียส ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่คอนโดหรูแห่งหนึ่ง ได้นำกำลังและเข้าทำการตรวจสอบพบ นายเอเลียส และจากการตรวจสอบห้องพัก พบหนังสือเดินออสเตรเลียของ นายเอเลียส และพบหนังสือเดินทางประเทศอิตาลี ของ MR.GJIN! สอบถาม นายเอเลียสหลบหนีออกมาจากประเทศออสเตรเลียจริง โดยได้ใช่หนังสือเดินทางของของ MR.GJINI เข้ามาที่ประเทศไทยและเคยยื่นขอต่อการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทย หลังจากนั้นทราบว่าทางตำรวจประเทศออสเตรเลียได้ทำการประสานกับทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประเทศไทย จึงได้พยายามหลบหนีมาโดยตลอด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่ง พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
2.สตม.บุกรวบสองหนุ่มแดนปลาดิบ ก่อเหตุลักทรัพย์ อยู่เกินอนุญาต พ่วงประวัติอาชญากรรมเพียบ
บก.ตม.1 จับกุม นายมาซาโอะ (นามสมมติ อายุ 36 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ในความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและจับกุม นายชูซูกิ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ในความผิดฐาน เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ส่งพนักงานสอบสวนสน.คลองตัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบเนื่องจาก บก.ม.1 ได้สืบสวนหาข่าวกรณีบุคคลต่างด้าวที่มีพฤติกรรมเป็นภัยสังคม มีประวัติการก่ออาชญากรรม หรือมีส่วนพัวพันกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
จนกระทั่งทราบจากสายลับว่ามีกลุ่มชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งซึ่งมีพฤติกรรมที่นำเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรืออาชญากรรมประเภทอื่นๆ โดยมักจะเช่าบ้านอยู่รวมกันหลายๆ คน และเปลี่ยนที่พักไปเรื่อยๆ ใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะที่จดทะเบียนในชื่อของบุคคลอื่น จึงได้ให้สายลับหาข้อมูลจนกระทั่งพบว่ากลุ่มดังกล่าวนี้ไปพักอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านหรูย่านพัฒนาการ โดยมีสมาชิก 4-5 คนผลัดเปลี่ยนกันเข้าๆออกในบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนหาข่าวเรื่อยมา
จนทราบชื่อสมาชิกรายหนึ่งของกลุ่ม ได้แก่ นายมาซาโอะ เนื่องจากชุดสืบสวนได้ทราบข้อมูลจากสายลับว่า เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมานายมาซาโอะได้ยึดโทรศัพท์ของแม่บ้านรายหนึ่งไว้เนื่องจากไปพบคลิปวิดิโอและภาพถ่ายที่เป็นหลักฐานการกระทำความผิดของตนในบ้านหลังดังกล่าวหลายภาพ ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายมาซาโอะในความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จนกระทั่งพนักงานสอบสวนสน. คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนงขออนุมัติหมายจับนายมาซาโอะ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ตม. 1 ได้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่หมู่บ้านดังกล่าวจนได้ข้อมูลว่ามีบุคคลต่างด้าวสัญชาติญี่ปุ่น มีตำหนิรูปพรรณตรงตามหมายจับ กำลังเล่นกับสุนัขอยู่ที่สวนหน้าบ้านหลังหนึ่ง จึงนำกำลังไปแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และได้แสดงสำเนาหมายจับให้ดู ผู้ถูกจับยืนยันว่าตนเองคือนายมาซาโอะ ตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางพบว่า นายมาชาโอะเดินทางเข้ามาในราซอาณาจักรเมื่อ 22 พ.ย. 66 ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยวีซ่าประเภท ผ.30 อนุญาตถึง 21 ธ.ค. 66 การอนุญาตยังไม่สิ้นสุด และยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ของผู้ถูกจับให้ทราบ
นอกจากนี้ในบริเวณที่เกิดเหตุยังพบนาย ซูซูกิ (นามสมมติ) สัญชาติญี่ปุ่น อายุ 24 ปี เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อ 6 ต.ค. 66 ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยวีซ่าประเภท ผ.30 ครบกำหนดอนุญาต 4 พ.ย. 66 การอนุญาตสิ้นสุดแล้ว 24 วัน จึงได้จับกุม โดยกล่าวหา เป็นบุคคลต่างด่าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการประสานข้อมูลกับทางการญี่ปุ่น ทำให้ได้ทราบข้อมูลเชิงลึกว่า นายมาซาโอะ มีประวัติเกี่ยวกับคดีอาญาถึง 18 คดี เช่น คดียาเสพติด คดีทำร้ายร่างกาย และคดีอุกฉกรรจ์อื่นๆ โดยเป็นอดีตสมาชิกแก็งค์ องค์กรอาชญากรรมที่มีความเชื่อมโยงกับอดีตแก็งค์ยากูซ่า ส่วนนายซูซูกิผู้ถูกจับรายที่ 2 นั้นก็มีประวัติเกี่ยวพันคดีปลันทรัพย์ โดยใช้กำลังประทุษร้ายที่ญี่ปุ่น จำนวนถึง 3 คดี
พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. กล่าวว่า ได้มีการสืบทราบว่ามีกลุ่มชาวญี่ปุ่น ที่มีพฤติการณ์เช่าบ้านอยู่รวมกันหลายคน ในหมู่บ้านแถวพัฒนาการ และมีอดีตสมาชิกแก็งค์องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และมีความเชื่อมโยงกับแก็งยากูซ่า ซึ่งมีประวัติเกี่ยวกับคดีสำคัญหลายคดีในประเทศญี่ปุ่น ยังมีหมายจับในประเทศไทย จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนของ ตม.1 เข้าไปดำเนินการตรวจสอบ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม กล่าวว่า ได้ทำงานร่วมกับทางตำรวจญี่ปุ่น และได้ประสานข้อมูลกันเลยทราบว่านายมาซาโอะ ได้ก่อคดีอะไรไว้บ้าง ที่ได้เดินทางเข้าออกทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งกรณีนี้เป็นไปตามระเบียบสั่งการ ถ้าในกรณีที่มีการจับกุม หรือที่มีการดำเนินการเกี่ยวกับพื้นที่ ที่ผู้ต้องหาเป็นคนต่างชาติก็ต้องประสานกับ สตม.
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน