หน้าแรก > สังคม

กดดันหนัก แก๊งทวงหนี้บุกพังร้านส้มตำ ติดต่อเข้ามอบตัวแล้ว ด้านผู้ว่าฯ ชัยนาท เผยพร้อมเร่งขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย

วันที่ 7 ธันวาคม 2566 เวลา 02:25 น.


กดดันหนัก แก๊งทวงหนี้บุกพังร้านส้มตำ ติดต่อเข้ามอบตัวแล้ว ด้านผู้ว่าฯ ชัยนาท เผยพร้อมเร่งขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย

(6 ธ.ค. 66) นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เปิดเผยถึงกรณีปรากฏข่าวสารในสื่อออนไลน์ว่าในพื้นที่อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท มีกลุ่มแก๊งทวงหนี้ออกข่มขู่และทำลายข้าวของพี่น้องประชาชนที่ทำการลงทะเบียนข้อมูลหนี้นอกระบบในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ตนได้รับรายงานว่าผู้กระทำความผิดดังกล่าวได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสรรคบุรีแล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังขยายผล เพื่อดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกรายอย่างไม่มีละเว้น

นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า กรณีปรากฏข่าวสารทางสื่อออนไลน์ว่า วันนี้ เมื่อเวลา 04.31 น. มีภาพกล้องวงจรปิดของร้านส้มตำในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลแพรกศรีราชา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ได้เห็นผู้ไม่ประสงค์ดี 2 คน เข้ามาทำลายข้าวของภายในร้าน ซึ่งเป็นร้านของนางสาวอ้อม (นามสมมุติ) โดยเจ้าของร้านมั่นใจว่าคนร้ายเป็นแก๊งเก็บเงินกู้นอกระบบ ซึ่งตนไปกู้เงินมาและเคยมาทวงหนี้ที่ร้าน จนมีโครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาลตนจึงไปลงทะเบียน ทำให้เจ้าหนี้ไม่พอใจส่งลูกน้องมาตามทวง ข่มขู่หลายครั้ง จนกระทั่งเข้ามาทำลายข้าวของที่ร้านตามที่เห็นในภาพกล้องวงจรปิด  

“เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ได้มีผู้ไปแจ้งความ คือ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี (สามีเจ้าของร้าน) อยู่ในพื้นที่ ตำบลแพรกศรีราชา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ให้ข้อมูลว่า นางสาวอ้อม (ภรรยา) ได้กู้เงินจากนายแมว (นามสมมุติ) จำนวน 30,000 บาท โดยกู้เงินมาเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยเป็นรายวัน วันละ 850 บาท ซึ่งผู้เสียหายได้ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่อำเภอสรรคบุรี โดยมีเจ้าหนี้ 3 ราย เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 ทางอำเภอสรรคบุรีได้นัดเจรจาไกล่เกลี่ยเจ้าหนี้ 3 ราย เจ้าหนี้ 2 ราย ตกลงยินยอมหยุดคิดดอกเบี้ยให้คืนเฉพาะเงินต้น แต่เจ้าหนี้อีก 1 ราย โทรศัพท์ติดต่อได้แต่ไม่รับสาย” นายนทีฯ กล่าว

นายนที ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท กล่าวต่ออีกว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งเบาะแสจากนายเอ (สามีของผู้เสียหาย) ฝ่ายปกครองอำเภอสรรคบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสรรคบุรี พร้อมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมบูรณาการ สืบสวน และกดดัน จนผู้กระทำความผิดติดต่อขอเข้ามอบตัว  โดยในขณะนี้ได้ควบคุมตัว นายเค (นามสมมุติ) กับนายซี (นามสมมุติ) ผู้ก่อเหตุเข้าไปพังร้านส้มตำได้แล้ว โดยได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้นว่า มีการกระทำความผิดฐาน "ร่วมกันบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์" ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองรายมาเก็บดอกเบี้ยเงินกู้จริง ซึ่งการดำเนินการต่อไปจะมีการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังนายแมว เจ้าของเงินกู้ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการไม่มีละเว้น และจะดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการในครั้งนี้ทุกราย

ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายในการยกระดับการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล รวมถึงประเด็นการขจัดความยากจนของคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน คือ “ปัญหาหนี้นอกระบบ” และ “ปัญหาหนี้สินรายย่อย” โดยดำเนินการเชิงรุกด้วยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ทุกจังหวัดดำเนินการจัดตั้ง "ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ" ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขตทุกแห่ง หรือช่องทางออนไลน์ และสายด่วนศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ โดยเปิดรับลงทะเบียนขอความช่วยเหลือแก้ไขหนี้นอกระบบ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและการทวงถามหนี้โดยมิชอบด้วยกฎหมายเชิงรุกให้กับพี่น้องประชาชน

“จังหวัดชัยนาท มุ่งมั่นในการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองทุกประเภท จึงขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าที่ ทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน พร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนช่วยกันระแวดระวังบ้านเมืองของเรา ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงด้วย หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่นายอำเภอ ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง และข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เเจ้งเบาะเเสจะถูกคุ้มครองและปกปิดเป็นความลับ ป้องกันไม่ให้พลเมืองดีต้องได้รับภัยจากการเเจ้งเบาะเเสดังกล่าว” นายนทีฯ กล่าวทิ้งท้าย 
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม