วันที่ 2 ธันวาคม 2566 เวลา 05:14 น.
รวบสาวหล่อ ลักลอบขายซิมม้า เย้ยกฎหมาย ตรวจค้นพบซิมพร้อมส่ง 2 พันกว่าชิ้น
วันที่ 1 ธันวาคม 2566 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการ 2 กองบังคับการ 4 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกันจับกุม นางสาวอ้อ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี อยู่บ้าน ในพื้นที่แห่งนึง ต.นาทุ่ง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร พร้อมด้วยของกลาง ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ลงทะเบียนแล้วจำนวนหมื่นกว่าซิม และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย รุ่น C2 สีทอง-ดำ จำนวน 1 เครื่อง (ใช้สำหรับเปิดใช้ลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์เครือข่าย เอไอเอส กับ เครือข่ายทรูและดีแทค) ซึ่งกระทำความผิดฐาน ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ สถานที่จับกุม พื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดชุมพร
พฤติการณ์ขณะเกิดเหตุ สืบเนื่องจากนโยบาย รัฐบาลสั่งจัดการเด็ดขาด ซิมม้า - บัญชีม้า - เว็บพนันออนไลน์นั้น พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท จึงได้สั่งการให้มีการปราบปรามการลักลอบขายซิมผีบัญชีม้าเพื่อป้องกันพวกมิจฉาชีพนำไปใช้โทรหลอกลวงประชาชนในรูปแบบแก็งคลอเซ็นเตอร์และการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบต่างๆ บก.สอท.4 และได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.๒ บก.สอท.๔ เป็นหัวหน้าชุด ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 เข้าจับกุมบุคคลที่ได้ลักลอบขายซิมผี จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.4 ได้ทำการสืบสวนขยายผลการจับกุมการลักลอบขายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้ในพื้นที่อำเภอแม่สอด จ.ตาก
จนสืบทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้ซึ่งมีความผิดตามพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผู้ใดเป็นธุระจัดหาโฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขายหมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใด แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงห้าปีหรือปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงห้าแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ) ได้ลงโพสขายผ่านแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊กเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อจากผู้โพสดังกล่าว
จากนั้นได้ตกลงซื้อขายกับสายลับและได้ส่งซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้งานให้กับสายลับ จากการตรวจสอบซิมที่ได้ล่อซื้อพบว่ามีการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ในชื่อของบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่ามาแล้วจริง จึงทำการสืบสวนจนทราบชื่อบุคคลที่ขายซิมดังกล่าวให้สายลับคือ ว่านางสาวอ้อ อายุ 53 ปี และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้กับนางสาวอ้อ และตกลงว่าจะส่งซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วให้กับสายลับทางไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามดูพฤติกรรม จนทราบและแน่ใจว่านางสาวอ้อ จะนำซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วไปส่งให้สายลับที่ร้านส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ติดตามไปจนถึงบริเวณถนนสาธารณะหน้าบ้านในพื้นที่ ตำบล/แขวง บางลึก อำเภอ/เขต เมืองชุมพร จังหวัด ชุมพร และประกอบในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบเห็นนางสาวอ้อ ถือกล่องพัสดุ ลงจากรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอทำการตรวจค้นบุคคลดังกล่าวพบมีซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้จำนวนหมื่นกว่าซิมไว้ในการครอบครอง
จากการสอบถามนางสาวอ้อ ให้การรับสารภาพว่า ซิมโทรศัพท์ทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบนั้นได้มีการลงทะเบียนซิมแล้วทั้งหมดพร้อมใช้ซึ่งตนเองกำลังจะนำไปส่งให้กับบุคคลที่ได้สั่งซื้อกับตนเองไว้จริงแลนางสาวอ้อ ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นภายในบ้าน ยังพบซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมส่งอีกจำนวนอีกกว่า 2,000 ซิม
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งว่าต้องถูกจับกุมและแจ้งสิทฺธิตามกฎหมายให้ทราบ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร ภ.จว.ชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปและจะได้ขยายผลจับกุมเครือข่ายนี้ต่อไป