วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เวลา 20:53 น.
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตร.ไซเบอร์ แถลงผลปฎิบัติการ “Operation Inbox Scam พิทักษ์รากแก้ว ทลายทรชน” กวาดล้างเครือข่ายหลอกขายนมผง และอีกคดีคือปฏิบัติการ “ทลายแก๊ง รถไถทิพย์ออนไลน์” กรณีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวในกลุ่มเฟสบุ๊กซื้อขายรถไถนามือสอง หลอกลวงผู้เสียหายที่เป็นเกษตรกรชาวไร่ ชาวนา มีความเชื่อมโยงกลุ่มรับจำนำรถส่งประเทศเพื่อนบ้าน และคนรวบรวมบัญชีม้าระดับมือโปรที่กลุ่มทุนจีนทุ่มเงินซื้อตัว
สืบเนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพเปิดเพจและแฝงตัวในกลุ่มซื้อขายรถไถนามือสอง หลอกลวงประชาชนที่หลงเชื่อโอนเงินค่ารถไถผ่านบัญชีม้าที่คนร้ายเตรียมไว้ มีประชาชนที่หลงเชื่อและได้รับความเสียหายในวงกว้าง โดยวิธีการของคนร้าย เริ่มจากการเปิดเพจ Facebook ชื่อที่มีการแสดงตนในลักษณะเป็นนายหน้าขายรถไถติดต่อผู้ที่โพสต์ขายรถไถในกลุ่ม แล้วคัดลอกภาพนิ่งและวิดีโอที่มีการเสนอขาย จากนั้นไปติดต่อผู้ที่โพสต์แสดงความต้องการที่จะซื้อรถไถ โดยเสนอในราคาต่ำกว่าท้องตลาด หากมีคนหลงเชื่อก็จะได้ติดต่อผ่าน LINE กับผู้เสียหายที่หลงเชื่อ พร้อมนัดหมายและส่งพิกัดที่จะนำรถไถไปส่งโดยแสร้งว่าไม่ต้องมีการให้วางมัดจำ และให้เจ้าของรถไถที่เสนอขายนำรถมาส่งโดยจ่ายค่ามัดจำ
ต่อมา คนร้ายจะติดต่อให้รถขนส่งไปรับรถจากผู้ขาย หรือให้ผู้ขายนำรถมาส่ง ซึ่งมีการถ่ายภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวการขนส่งรถแล้วส่งมาให้คนร้าย โดยบอกกับทางผู้ขายว่าจะจ่ายเงินสดให้กับทางผู้ที่มาส่งรถและทำทีส่งภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวการขนส่งรถไปให้กับผู้เสียหายที่เป็น ผู้ซื้อ เมื่อรถมาถึงจุดนัดหมายจึงให้ผู้เสียหายโอนเงินค่ารถไถเข้าบัญชีม้าโดยผู้เสียหายเข้าใจว่าโอนเงินให้กับเจ้าของรถตัวจริง แต่ทางเจ้าของรถไม่ได้รับเงิน จึงรู้ว่าไม่มีการซื้อขายรถจริง เจ้าของรถจึงได้เอารถกลับคืนโดยไม่มีการส่งมอบรถ ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าถูกคนร้ายหลอกและเสียเงินจำนวนดังกล่าวให้กับคนร้ายไปแล้ว ซึ่งคนร้ายเมื่อได้รับเงินก็ได้ตัดขาดการติดต่อกับผู้เสียหาย
ทั้งนี้ กลุ่มมิจฉาชีพมีการหลอกลวงผู้เสียหายจำนวนหลายรายมีการ แจ้งความไว้หลายท้องที่ เบื้องต้นพบว่ามีการแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์เกี่ยวกับการซื้อขายรถไถจำนวน 53 เคสไอดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายเป็นชาวไร่ ชาวนา เกษตรกรที่หวังจะนำรถไถไปใช้ในการเกษตรของตน
จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหามีเคยถูกดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงมาแล้วหลายครั้ง แต่ติดต่อผู้เสียหายให้ยอมความและถอนแจ้งความโดยหลอกซ้ำอีกว่าจะชดใช้ให้ และพบว่าผู้ต้องหามีความเชื่อมโยงกับ
กลุ่มรับจำนำรถส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในการสืบสวนยังพบในกลุ่มผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่คนรวมบัญชีม้าระดับมือโปรที่รู้ช่องทางการทำให้สามารถยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันของทางธนาคาร และสามารถนำบัญชีม้าดังกล่าวไปใช้ได้
จากกรณีดังกล่าวพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดโดยเป็นกลุ่มบุคคลผู้ขายบัญชีม้า-คนรวบรวมบัญชีม้า-คนที่ยืนยันตัวบุคคลผ่านระบบแอปพลิเคชันของทางธนาคาร-คนหลอกผู้เสียหายและคนกดเงิน ผู้ร่วมขบวนการ ได้ทำการขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาและขยายผล เบื้องต้น มีการจับกุมกลุ่มขบวนการดังกล่าวได้ 7 ราย ในส่วนผู้ต้องหารายอื่นกำลังอยู่ระหว่างสืบสวนเร่งนัดติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หลังสิ้นสุดการแถลงข่าว ได้มีตัวแทนผู้เสียหายซึ่งเป็นคุณแม่กรณีหลอกขายนมผง ได้นำกระเช้าดอกไม้มามอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ที่ช่วยสืบสวนจับกุมคนร้าย โดยมี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา เป็นตัวแทนรับมอบ
เจ้าหน้าที่ได้ทำการขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาและขยายผล จนมีการจับกุมกลุ่มขบวนการดังกล่าวได้ 7 ราย ในส่วนผู้ต้องหารายอื่นกำลังอยู่ระหว่างสืบสวนเร่งนัดติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป