หน้าแรก > สังคม

“พวงเพ็ชร” มอบ “วราวุธ” ติดตามคอนโดไม่ตรงปก ย่านบางใหญ่ สคบ. ย้ำ ขอลูกบ้านมั่นใจ ไม่ทอดทิ้ง เตรียมเอาผิดเจ้าของตามกฎหมาย

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 เวลา 03:20 น.


“พวงเพ็ชร” มอบ “วราวุธ” ติดตามคอนโดไม่ตรงปก ย่านบางใหญ่ สคบ. ย้ำ ขอลูกบ้านมั่นใจ ไม่ทอดทิ้ง เตรียมเอาผิดเจ้าของตามกฎหมาย

(17 พ.ย.66) นายวราวุธ ยันต์เจริญ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจาก นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะประกอบด้วย พลเอกอนุชา รักเรือง คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายไพรัช ชัยชาญ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) น.ส.ปีย์วรา จริยเมโธ รองนายกเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา นายสราวุธ พรรณเภรี ปลัดอำเภอบางบัวทอง ลงพื้นที่ โครงการคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง จากกรณีที่ปรากฏข้อมูลการนำเสนอข่าวผ่านรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 โดยมีเนื้อหาผู้บริโภคได้รับความเสียหายจากการซื้อห้องชุดในโครงการไม่ตรงตามที่โฆษณา และมีการชำรุดหลายจุด

นายวราวุธ กล่าวว่า รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ติดตามเรื่องนี้เร่งด่วน สั่งการให้ตรวจสอบซึ่งพบว่ามีลูกบ้านที่ได้รับผลกระทบ ตามที่เคยร้องเรียนผ่าน สคบ. จำนวน 26 ราย ห้องพักที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด อยู่บนชั้น 8 ของโครงการ พบสภาพผนังห้องมีรอยร้าวหลายจุด มีน้ำซึมรั่ว ตัวอาคารมีรอยร้าวเช่นกัน และระบบสาธารณูปโภคบางอย่างไม่มีจริงตามที่ทางโครงการเคยโฆษณาไว้ เช่น Lobby บริเวณโถงต้อนรับ Skywalk ทางเชื่อมโครงการอาคารชุดไปยังสถานีรถไฟฟ้าฯ สระว่ายน้ำ ไฟฟ้าทางเข้าอาคารชุด เป็นต้น

ทาง สคบ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ปัจจุบันเรื่องที่ร้องเรียนดังกล่าวได้เข้าสู่คณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์จากผู้บริโภคเรียบร้อยแล้ว พบว่าเจ้าของไม่ให้ความร่วมมือกับทาง สคบ. จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดตาม และขอความร่วมมือเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ช่วยเป็นหูเป็นตา ขณะที่ สคบ. ได้รวบรวมพยานและหลักฐาน เตรียมเข้านำเข้าสู่คณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภค และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน หลังจากนั้นจึงจะสามารถดำเนินการฟ้องทางอาญาและทางแพ่งได้ ส่วนเรื่องของโครงสร้างอาคารทางเทศบาลเมืองบางรักพัฒนาและทางจังหวัดนนทบุรีได้ให้ความร่วมมือในการดำเนินการตรวจสอบต่อไป

ด้าน นายธสรณ์อัฑฒ์ กล่าวว่า ตอนนี้มีหลักฐานทั้งหมดที่สามารถเอาผิดผู้เป็นเจ้าของได้ ขอให้มั่นใจว่า สคบ. ดำเนินการตามกระบวนการทุกขั้นตอนตามลำดับ และไม่ได้นิ่งนอนใจต่อข้อร้องเรียนของผู้บริโภค ซึ่ง สคบ. เอง ได้มีหนังสือเรียกกรรมการบริษัทฯ มาพบเพื่อให้ถ้อยคำเรื่องดังกล่าวในวันที่ 28 กันยายน 2566 แต่บริษัทฯ ไม่ได้มาตามนัด จึงเป็นการขัดหนังสือเรียก มีความผิดตามกฎหมาย คดีอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคดีแพ่ง สคบ. ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยาน พร้อมไกล่เกลี่ย หาข้อยุติ และจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคเร็วๆ นี้
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม