วันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10:24 น.
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้ ตามกฎหมาย ตร. และ มท.ต่างมีอำนาจในการตรวจค้นจับกุม ซึ่งทำงานไม่ซ้ำซ้อนกัน เผย ที่ผ่านมาทั้งสองฝ่าย ต่างร่วมมือกันเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
วันนี้ (4 พ.ย.66) พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ยืนยัน ตำรวจ กับ ฝ่ายปกครองไม่ทำงานซ้ำซ้อนกัน หลังเกิด กรณีตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ บุกจับร้านเหล้าเปิดเกินเวลา และพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอยู่ภายในร้าน แต่เป็นกรณีที่ต่างฝ่ายต่างก็ปฏิบัติหน้าที่ไปตามกฎหมายที่ได้ให้อำนาจไว้แก่ทั้ง 2 หน่วยงาน โดยให้มีอำนาจในการเข้าไปตรวจตราในสถานบริการได้ ไม่ว่าเวลาใดๆ กฎหมายสถานบริการ จะมีกระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพหลัก
โดยกฎหมาย มีอำนาจหลักๆ อยู่ 3 กรณี คือ
1.อำนาจในการออกใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ถ้าเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัด เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด
2.อำนาจในการสั่งปิดสถานบริการ ในกรุงเทพฯ เป็นของ ผบ.ตร. ถ้าต่างจังหวัด เป็นของผู้ว่าราชการจังหวัด
3.อำนาจในการตรวจค้นจับกุม ซึ่งทั้งตำรวจและกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจนี้เหมือนกัน
รอง ผบ.ตร. ระบุ จากการทำงานที่ผ่านมาทั้งตำรวจและฝ่ายปกครอง ต่างก็ได้ร่วมมือกันเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เพราะเท่าที่ผ่านมาในจังหวัดต่างๆ ท่านผู้ว่าฯ ก็จะมีคำสั่งบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร. ก็ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการการทำงานเรื่องนี้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นกัน ดังนั้น กรณีดังกล่าวจะไม่เป็นปัญหาระหว่างหน่วยงาน เพราะต่างก็ทำหน้าที่ตามกฎหมายและสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาล และเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน