ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งตั้งกรรมการวินัยร้ายแรงและดำเนินคดีอาญาตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน พร้อมวางกฎเหล็กหากเกิดขึ้นอีกผู้บังคับบัญชาร่วมรับผิดด้วย 

พลตำรวจตรี อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปรากฎคลิปภาพเคลื่อนไหวตามสื่อสังคมออนไลน์ และสื่อมวลชนที่มีข้าราชการตำรวจอำนวยความสะดวก และใช้รถติดสัญญาณไฟวับวาบ นำนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า หลังจากที่ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการด่วนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ให้จเรตำรวจเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าตำรวจที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว เป็นข้าราชการตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 จำนวน 2 นาย กองบังคับการตำรวจจราจร จำนวน 2 นาย โดยได้ใช้รถส่วนตัวติดสัญญาณไฟวับวาบและเครื่องหมายโล่เขน 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดอาญา และมีมูลเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจต่างสังกัดกันร่วมกันกระทำความผิด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรง ส่วนการดำเนินการทางอาญา ได้ส่งเรื่องให้สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินการอีกส่วนหนึ่งแล้ว พร้อมทั้งให้ต้นสังกัดสั่งให้ตำรวจทั้ง 4 นาย ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการ โดยให้พ้นจากหน้าที่เดิม 

นอกจากนี้ เพื่อวางมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในทำนองดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมสภาพปัญหาศึกษาวิเคราะห์ ระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจน โดยแต่งตั้ง พลตำรวจโท วีระ จิรวีระ รองจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ร่วมกับตำรวจหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องเป็นคณะทำงาน แล้วรายงานผลให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทราบภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป 

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการอย่างจริงจังและรวดเร็วในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งการดำเนินการทางอาญา วินัย กับตำรวจที่กระทำความผิด พร้อมกับวางมาตรการไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเน้นย้ำว่า ต่อไปจะวางมาตรการกำกับดูแลป้องกันอย่างเข้มข้นไม่ให้เกิดขึ้นอีก หากเกิดขึ้นอีก ผู้บังคับบัญชาตัองร่วมรับผิดชอบด้วย