25 ตุลาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งซานตามาเรีย ในประเทศเปรู และมหาวิทยาลัยวอร์ซอ ในประเทศโปแลนด์ เปิดเผยว่า พวกเขาทำงานร่วมกับประติมากรชาวสวีเดนที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างใบหน้าใหม่ ใช้เทคโนโลยีสามมิติ (3D) จำลองใบหน้าของมัมมี่เด็กสาวชาวอินคาเมื่อกว่า 500 ปีก่อนได้สำเร็จ ในการวิเคราะห์กะโหลกศีรษะ และลำตัวของมัมมี่ที่รู้จักกันในชื่อ "สุภาพสตรีแห่งอัมปาโต" (Lady of Ampato) หรือ "ฮวนนิตา" (Juanita) ซึ่งถูกค้นพบเมื่อปี 2538 ที่ระดับความสูง 6,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บนภูเขาไฟอัมปาโตที่ปกคลุมด้วยหิมะ ในจังหวัดเคย์โลมา ภูมิภาคอาเรกีปา ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1,000 กิโลเมตร ทางตอนใต้ของกรุงลิมา ประเทศเปรู ตามการศึกษาทางมานุษยวิทยา ฮวนนิตา ถูกบูชายัญระหว่างปี ค.ศ. 1440 ถึง 1450 เมื่อเธออายุระหว่าง 13 ถึง 15 ปี เธอสูง 1.40 เมตร (55 นิ้ว) หนัก 35 กิโลกรัม (77 ปอนด์) และได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ซึ่งทำซีทีสแกน ระบุว่าสาเหตุที่เป็นไปได้ของการเสียชีวิตคือการถูกกระแทกที่กลีบท้ายทอยด้านขวาอย่างรุนแรง ซึ่งมีรอยแยกในกะโหลกศีรษะความยาว 5 เซนติเมตร ซึ่งอาจมาจากการถูกตีด้วยกระบองหรืออาวุธของชาวอินคา และมีความเป็นไปได้ว่าเด็กหญิงคนนี้อาจถูกบูชายัญในช่วงจักรวรรดิอินคา เพื่อเป็นการถวายแด่เทพเจ้า เพื่อขอให้หยุดยั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น ความแห้งแล้ง น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด หรือโรคระบาด

ที่มา : https://apnews.com/.../peru-mummy-face-reconstruction...