วันที่ 19 ต.ค.2566  สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน ถึง ความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ฉนวนกาซ่า ภายหลังกองกำลังฮามาสในปาเลสไตน์เปิดฉากโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา  ขณะที่ เมื่อค่ำวันอังคารที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมาเกิดโศกนาฏกรรมระเบิดถล่ม โรงพยาบาลอัล-อาห์ลี อาหรับ ในเมืองกาซ่าซิตี  ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและ บาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก

โดยจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 471 ราย โดยทั้งฝ่ายกองกำลังฮามาสกและอิสราเอล ต่างปฎิเสธการอยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้  ขณะที่อิสราเอลออกมาระบุว่ากองกำลังฮามาสโจมตีเองเพื่อสร้างสถานการณ์เพราะร่องรอยระเบิดขนาดเล็กปรากฏอยู่ในจุดเกิดเหตุ และไม่ใช่ขีปนาวุธจากอิสราเอล

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ซึ่งเดินทางเยือนอิสราเอลเพื่อแสดงการสนับสนุนต่อ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู  โดยเขาสนับสนุนการที่อิสราเอลปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในฉนวนกาซา และรัฐบาลอียิปต์เห็นชอบเปิดด่านข้ามชายแดนราฟาห์เพื่อให้รถบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 20 คันเดินทางข้ามไปยังพื้นที่พิพาท

นายอาเหม็ด ฟาห์มี โฆษกประธานาธิบดีอียิปต์ ออกแถลงการณ์ว่า “ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี แห่งอียิปต์ และประธานาธิบดีอเมริกา โจ ไบเดน ได้ตกลงที่จะส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างยั่งยืนไปยังฉนวนกาซ่าผ่านทางด่านาฟาห์” แต่ไม่ได้ระบุวันที่แน่ชัด

ขณะที่ภาพถ่ายของนายไบเดนกอดให้กำลังใจนายกฯ อิสราเอล ตอกย้ำความโกรธเคืองของชาวอาหรับที่ไม่เพียงแต่กับอิสราเอลเท่านั้นแต่ยังรวมถึงสหรัฐด้วย แม้นายไบเดนจะเจรจาขอความช่วยเหลือที่จำเป็นต่อพลเรือนทั้งหมดในพื้นที่ถูกปิดล้อม รวมถึงเคยย้ำว่าฮามาสไม่ใช่ตัวแทนของชาวปาเลสไตน์ซึ่งเป็นเหยื่อ หลายฝ่ายมองว่านายไบเดนสนับสนุนกองทัพอิสราเอลใช้กำลัง  ส่งผลให้กลุ่มผู้ประท้วงในเหลายชาติอาหรับประณามสหรัฐ และบางคนตะโกนว่า “อเมริกาไปตายซะ” รวมทั้งในบาห์เรนซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐ และเป็นหนึ่งในสองรัฐอาหรับที่ประณามการโจมตีของกลุ่มฮามาสอย่างชัดเจน

ความตึงเครียดปะทุขึ้นในตะวันออกกลางหลังจากกลุ่มติดอาวุธฮามาสจากฉนวนกาซาโจมตีดินแดนอิสราเอล กลุ่มฮามาส มองว่าการโจมตีเป็นการตอบโต้ต่อการดำเนินการของทางการอิสราเอล ที่มีต่อมัสยิดอัล-อักซอ บนเขาวิหารในกรุงเยรูซาเลม อิสราเอลประกาศปิดล้อมฉนวนกาซาโดยสิ้นเชิง และทิ้งระเบิดโจมตีฉนวนกาซาและบางพื้นที่ในเลบานอนและซีเรีย มีรายงานการปะทะกันในเขตเวสต์แบงก์ด้วย ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 3,400 คนถูกสังหาร และอีกกว่า 12,000 คนได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่อิสราเอล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,500 ราย และบาดเจ็บเกือบ 4,500 ราย

ที่มา https://www.bbc.com/news/live/world-middle-east-67141589
และ   https://tass.com/world/1693257