กรมการปกครอง บุกจับร้านปืนแบลงค์กัน บีบีกัน เถื่อน ปลอมใบอนุญาตค้าสิ่งเทียมอาวุธปืน ลักลอบนำเข้า โพสต์ใบอนุญาตปลอมขายออนไลน์

วันที่ 18 ตุลาคม 2566 นายยอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง นำกำลังฝ่ายปกครองพร้อมหมายค้นและหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี เข้าตรวจและจับกุมเจ้าของร้านค้าปืนบีบีกัน ในพื้นที่บ้านบึง ชลบุรี”

จุดเริ่มต้นของปฏิบัติการนี้ โดยศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง(ศกปค.)ได้รับเรื่องร้องเรียนจากอดีตนายอำเภอบ้านบึง ว่าพบความผิดปกติของการออกใบ ป.5 หรือชื่อตามกฎหมายคือ “ใบอนุญาตให้ทำ ประกอบซ่อมแซม หรือจำหน่ายอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า” เพราะมีผู้ไปพบเห็นใบ ป.5 ที่ร้านค้าปืนบีบีกันมีการลงโฆษณาในช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์มต่างๆ มีการลงนามใบอนุญาตโดยอดีตนายอำเภอบ้านบึง แต่พบความไม่ชอบมาพากล เพราะลงวันที่ก่อนหน้านายอำเภอจะมารับตำแหน่ง เป็นเวลา 1 เดือน อีกทั้งเมื่ออดีตนายอำเภอตรวจดูใบ ป.5 อย่างละเอียด ก็พบพิรุธหลายจุด ทั้งการปลอมแปลงลายเซ็น การใช้ตราปั๊มสิงห์ที่ไม่ใช้ตราสิงห์ของอำเภอบ้านบึง และยังลงวันที่ก่อนหน้าที่นายอำเภอจะมารับตำแหน่ง เมื่ออดีตนายอำเภอได้รับทราบก็ได้รีบแจ้งให้นายอำเภอบ้านบึงคนปัจจุบันตรวจสอบ และได้แจ้งมายัง ศูนย์ปฎิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง ให้ทราบเพื่อช่วยสืบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว

ชุดสืบสวนของศูนย์ปฎิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง ได้เข้าทำการสืบสวนข้อเท็จจริงจากอดีตนายอำเภอบ้านบึง พบว่า ในห้วงระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ถึง 30 กันยายน 2565 ไม่เคยมีการออกใบอนุญาตการค้าอาวุธปืนให้แก่บุคคลใด และถึงแม้ว่าจะมีการออกใบอนุญาตให้จริง ก็ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างรัดกุม ละเอียด รอบคอบ ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติอย่างถี่ถ้วน เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัยและความอันตรายของพี่น้องประชาชน ดังนั้น ต้องผ่านการคัดกรองจากอำเภอบ้านบึงเป็นอย่างดี และตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ยังได้ทำการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์การกระทำความผิดของผู้มีชื่อปรากฏอยู่ใน ใบ ป.5 นั้น คือบุคคลผู้เป็นเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นเจ้าบ้านตามหมายค้น สายลับพนักงานฝ่ายปกครองทำทีเข้าขอซื้ออุปกรณ์บีบีกัน และสอบถามว่าร้านค้ามีใบอนุญาตหรือไม่ ร้านกลับตอบว่าไม่มี ทั้งที่ก่อนหน้าที่จะมีข่าวเด็ก 14 กราดยิงในห้างสรรพสินค้า ร้านยังกล้าโชว์ใบอนุญาตอยู่ในโลกออนไลน์ เพื่อให้ผู้ซื้อเข้าใจว่าได้รับอนุญาตให้ขายอย่างถูกต้อง

ดังนั้น จึงชี้ได้ว่าผู้ที่ปรากฎชื่อในใบอนุญาตให้ค้าสิ่งเทียมอาวุธปืน และเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการขายสิ่งเทียมอาวุธปืน นั้น มีและใช้เอกสารราชการปลอม เป็นความผิดอาญาและต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ส่วนในขั้นตอนและกระบวนการได้มาซึ่งเอกสารนั้น จะต้องสืบสวนและขยายผลต่อไป ว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องหรือมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ หากพบว่ารู้เห็นและมีส่วนร่วมในกระทำความผิด จะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีทุกคน
ขณะเข้าตรวจค้นและจับกุมตามหมายศาลจังหวัดชลบุรี ด้านหลังอาคารที่ตรวจค้นพบห้องสำหรับดัดแปลงและตกแต่งอาวุธปืนและอุปกรณ์บีบีกัน โดยผู้ถูกจับแจ้งว่าเป็นการตกแต่งอุปกรณ์เพื่อให้สำหรับลูกค้าตามออเดอร์

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง กล่าวว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนทางรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยจึงได้มีนโยบายจัดระเบียบสังคม จัดการผู้มีอิทธิพล และควบคุมอาวุธปืนเนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมา ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงอาวุธปืนได้ง่ายผ่านทางโซเชียลมีเดีย ที่น่าห่วงคือมีการนำเอาสิ่งเทียมอาวุธปืน เช่น แบลงค์กัน หรือ บีบีกัน ไปปรับเปลี่ยน แก้ไขดัดแปลงให้เป็นอาวุธปืน สามารถใช้ยิงกระสุนจริงทำอันตรายต่อชีวิตร่างกายคนได้ ที่ผ่านมาเราจะเห็นข่าวการใช้อาวุธปืนที่ดัดแปลงมาจากสิ่งเทียมอาวุธปืนไปก่อเหตุอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งการนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืนนั้น จะต้องได้รับใบอนุญาตให้ค้าสิ่งเทียมอาวุธปืน (ใบ ป.5) เสียก่อน จึงจะสามารถนำไปขอใบป.2 เพื่อสั่งนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืนได้

หากนายทะเบียนท้องที่ไม่อนุญาต ก็ไม่สามารถสั่งนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืนได้ 
ดังนั้นจึงมีขบวนการปลอมแปลงใบอนุญาตเพื่อให้สามารถนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืน ซึ่ง เจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนทุกคนจะต้องช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบสิ่งผิดปกติขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันมิให้เกิดภัยอันตรายกับสังคม

ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีนโยบายจำกัดและควบคุมใบอนุญาตอาวุธปืน รวมถึงสิ่งเทียมอาวุธปืน เพื่อให้ประชาชนไทยมีความปลอดภัย