วันที่ 17 ตุลาคม 2566 เวลา 12:43 น.
ตำรวจไซเบอร์จับ 2 บัญชีม้าขบวนการอ้างพัสดุผิดกฎหมาย แต่งชุดตำรวจวิดีโอคอลหลอกโอนเงิน สูญกว่า 2.6 ล้าน
สืบเนื่องจาก เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 66 ที่ผ่านมา ได้มีมิจฉาชีพโทรหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นพนักงานส่งพัสดุของแบรนด์ดัง แจ้งว่ามีพัสดุส่งจาก จ.ตาก ไป จ.อุบลราชธานี โดยมีชื่อผู้ส่งเป็นชื่อผู้เสียหาย โดยหลอกว่าในกล่องพัสดุมีสมุดบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย จำนวน 3 เล่ม และมีหนังสือเดินทางของชาวจีนอีกจำนวน 15 เล่ม ต่อมา ผู้เสียหายหลงเชื่อ มิจฉาชีพจึงโอนสายให้ คุยกับตำรวจปลอม อ้างสังกัด สภ.เมืองตาก แล้วขอภาพถ่ายบัตรประชาชนจากผู้เสียหายไป นอกจากนี้ มิจฉาชีพยังได้ขอแอดไลน์และวิดีโอพูดคุยในชุดเครื่องแบบตำรวจติดยศระดับพันตำรวจเอกอ้างว่าเป็นผู้กำกับ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และพูดจาข่มขู่ให้ผู้เสียหายรู้สึกกลัว แล้วหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ทำการตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินไปทั้งสิ้น จำนวน 9 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,661,529.45 บาท สุดท้าย เมื่อรู้ตัวว่าโดนหลอก จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ บก.สอท.3 เร่งสืบสวนหาตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้หลายราย
กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า มีผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคารให้ขบวนการดังกล่าวใช้เป็นเครื่องมือ กบดานอยู่ในพื้นที่ จ. เพชรบุรี จำนวน 2 ราย จึงได้ร่วมกันลงพื้นที่และวางแผนเข้าจับกุม
ต่อมา วันที่ 16 ต.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ โดยสามารถจับกุม นายธีรนพ อายุ 21 ปี และ นายไพบูลย์ อายุ 24 ปี ชาวเพชรบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
โดยสามารถควบคุมตัวได้ในพื้นที่ ต.ช่องสะแก และ ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี จึงนำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป