วันที่ 26 มกราคม 2566 เวลา 16:37 น.
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีมสืบสวนนครบาล ชุดตำรวจ PCT5 , และ สืบสวน สน.ใน นครบาล เร่งติดตามเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ ของ สภากาชาติไทย สูญหายจำนวนมากตามสถานที่สำคัญไว้ เพื่อช่วยผู้ป่วยหรือประชาชนฉุกเฉิน โดยวันนี้ 26 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุม 2 ผู้ก่อเหตุ คือ นายรุ่งโรจน์ หรือ เหน่งตาเดียว อายุ 37 ปี และ นายวีรยุทธ หรือ แจ็ค อายุ 32 ปี และได้มีการตรวจยึดของกลางจำนวน 5 รายการ
1. เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator, AED) ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.บางรัก
2. เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator, AED) ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.พลับพลาไชย 2 โดย พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 เป็นผู้มอบของกลางให้ ศปก. เพื่อขยายผล
3. เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator, AED) ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.พลับพลาไชย 2 โดย พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 เป็นผู้มอบของกลางให้ ศปก. เพื่อขยายผล
4. เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator, AED) ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.บางบอน โดย พ.ต.อ.นรินท์โชติ พงศ์พิธานนท์ ผกก.สน.บางบอน เป็นผู้มอบของกลางให้ ศปก. เพื่อขยายผล
5. เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator, AED) ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน โดย พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ตลิ่งชัน เป็นผู้มอบของกลางให้ ศปก. เพื่อขยายผล
โดยชุดสืบสวน สืบทราบว่า นายรุ่งโรจน์ เป็นอดีตเจ้าหน้าที่กู้ภัย ย่านบางกอกน้อย มีการโพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ ประกาศขายเครื่อง AED ในราคาที่ต่ำผิดปกติ จึงได้สืบสวนจนทราบที่พักอาศัยของ นายรุ่งโรจน์ ซึ่งต่อมาวันที่ 25 ม.ค. 65 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 , ชุดสืบสวนนครบาล และฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน เข้าตรวจสอบบ้านพักภายในซอยวัดไก่เตี้ย แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน จ.กรุงเทพ พบตัว นายรุ่งโรจน์ ซึ่งได้ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่าได้ตระเวนลักเครื่อง AED ตามที่ต่างๆใน จ.กรุงเทพฯ ไปแล้วกว่า 6 เครื่อง แต่ได้จำหน่ายออกไปจนหมด โดย พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ได้ขยายผลจนทราบจุดที่ลักเครื่องทั้ง 6 แห่ง คือ
1. บริเวณป้อมตำรวจแยกวรจักร แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบ จ.กรุงเทพฯ ก่อเหตุเมื่อก่อนประมาณวันที่ 20 ธ.ค. 65 จำนวน 1 ตัว
2. บริเวณป้อมตำรวจซอยเจริญกรุง 43 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก จ.กรุงเทพ ก่อนประมาณวันที่ 26 ธ.ค. 65 จำนวน 1 ตัว
3. บริเวณป้อมตำรวจ แยกเจริญสวัสดิ์ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน จ.กรุงเทพ ก่อนประมาณวันที่ 3 ม.ค. 66 จำนวน 1 ตัว
4. บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกแม้นศรี แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย จ.กรุงเทพ เมื่อประมาณต้นเดือน ม.ค. 66 จำนวน 1 ตัว
5. บริเวณป้อมตำรวจ ถ.พระรามที่ 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก จ.กรุงเทพฯ เมื่อประมาณต้นเดือน ม.ค. 66 จำนวน 1 ตัว
6. บริเวณป้อมตำรวจ ห้าแยกหมอมี ถ.เจริญกรุง แขวงสัมพันธ์วงศ์ เขตสัมพันธ์วงศ์ จ.กรุงเทพ เมื่อประมาณกลางเดือน ม.ค. 66 จำนวน 1 ตัว
โดยทั้ง 6 เครื่องนั้น ขยายผลทราบว่าถูกนำไปขายให้กับ นายวีรยุทธ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยย่านบางกอกน้อย เช่นเดียวกัน โดยขายต่อเครื่องละ 12,000 บาท ซึ่งเมื่อ พล.ต.ต.ธีรเดช ได้นำกำลังไปตรวจสอบ นายวีรยุทธ ก็พบว่าเครื่อง AED ทั้งหมดได้ถูกขายต่อไปให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยพื้นที่อื่นๆ กระจายทั่วกรุงเทพและปริมณฑลในราคา 13,000-15,000 บาท ต่อเครื่อง ซึ่งต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามเครื่อง AED จนกระทั่งสามารถติดตามรวบรวมกลับมาได้แล้วเป็นจำนวนกว่า 5 เครื่อง โดยเป็นเครื่องที่ถูกลักมาจาก รายการที่ 6 (ห้าแยกหมอมี) , รายการที่ 1 (แยกวรจักร) และอีก 3 เครื่องนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการขยายผลได้นำตัว นายรุ่งโรจน์ฯ และ นายวีรยุทธฯ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก โดยนายรุ่งโรจน์ฯ ถูกกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ส่วน นายวีรยุทธฯ ถูกกล่าวหาว่า “รับของโจร” โดยหลังจากนี้จะมีการขยายผลเพื่อติดตามเครื่อง AED และขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ในชั้นจับกุม นายรุ่งโรจน์ สารภาพว่า ตนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยอิสระอยู่ละแวกเขตบางกอกน้อย ซึ่งขณะทำงานกู้ภัยได้พบเห็นเครื่อง AED ติดอยู่ทั่วไป โดยเหตุจูงใจแรกเริ่มได้ก่อเหตุเพราะต้องการเงิน เพื่อนำไปใช้ซ่อมรถที่จอดเสียอยู่ ซึ่งครั้งแรกได้แอบไปลัก 1 เครื่อง ย่านวัดเทพศิรินทร์ เมื่อนำไปขายพบว่าราคา 15,000 บาท และเมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อๆไป จึงตระเวนลักเรื่อยมาโดยทั้งหมดยอมรับว่าลักมาแล้ว 6 เครื่อง โดยจะให้นายวีรยุทธ นนท์ปาน หรือแจ็ค ซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยด้วยกัน ช่วยหาคนซื้อ หากหาได้จะแบ่งให้นายแจ็ค เครื่องละ 3,000 บาท
ในชั้นจับกุม นายวีรยุทธ หรือแจ็ค ให้การว่า ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอิสระ อยู่ย่านเขตบางกอกน้อย และได้รู้จักกับนายรุ่งโรจน์ ละออแช่ม หรือเหน่งหรือตาเดียว มาประมาณ 4 ปี ต่อมาประมาณกลางเดือน ธ.ค. 2565 ได้ติดต่อกับนายรุ่งโรจน์ฯทางเฟซบุ๊ก โดยตกลงให้ตนขายเครื่อง AED ให้ ตนก็สอบถามนายรุ่งโรจน์ฯแล้วว่ายืนยันว่าไม่ได้เป็นของที่ขโมยมา แต่ตนก็ยังสงสัยเพราะราคาที่ซื้อขายนั้นต่ำกว่าราคาจริง เมื่อตนขายได้นายรุ่งโรจน์ฯจะแบ่งให้ตนเครื่องละ 3,000 บาท โดยขายเครื่อง AED มาแล้ว 6 เครื่อง
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากคำให้การผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่ามีการขโมยแค่ 6 เครื่อง เนื่องจากยังพบข้อมูลว่ายังมีอีกหลายแห่งในพื้นที่ จ.กรุงเทพ ที่ถูกขโมยไป ซึ่งตอนนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ผมจัดตั้ง ศปก. เพื่อให้รวดเร็วในการจับกุมคนร้ายและติดตามเครื่องที่ถูกลักไปกลับคืนมา เนื่องจากอุปกรณ์ AED ดังกล่าวนี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่ไว้ใช้ช่วยเหลือชีวิตของประชาชน เราจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด"
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์