หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบ 2 กรรมการบริษัทแสบ หลอกคนทำงานต่างประเทศโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

วันที่ 11 ตุลาคม 2566 เวลา 13:41 น.


กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นายวรินทร อายุ 30 ปี ฐาน “ร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง, ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถจัดหางานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้หลอกลวง และร่วมกันฉ้อโกง” และพบว่ายังมีอีก 2 หมายจับ

อีก 1 รายคือ นายพัฒนชัย อายุ 27 ปี ฐาน “ร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง, ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถจัดหางานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้หลอกลวง และร่วมกันฉ้อโกง”

โดยจับกุมนายวรินทรได้ที่ บริเวณหน้าห้องพัก โรงแรมแห่งหนึ่ง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และจับนายพัฒนชัยที่ ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ถนนพหลโยธิน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ก่อนจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง กลุ่มผู้เสียหายประมาณ 80 คน ได้รวมตัวกันเข้าร้องเรียน

ต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่เป็นเหยื่อถูกหลอกลวงจากบริษัททัวร์แอบแฝงส่งผีน้อยไปทำงานต่างประเทศ ใน Tiktok หลอกลวงผู้เสียหายว่าจะพาไปทำงานเป็นผีน้อยด้วยวีซ่าท่องเที่ยวและวีซ่าสัมนา และมีวิธีช่วยให้ผ่าน ตม. ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้กับผู้ต้องหาทั้งสอง เมื่อชำระเงินไป แล้วกลับไม่ได้ไปทำงานตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อขอเงินคืนกลับถูกผัดผ่อนเรื่อยมา ก่อนต่อมาจะถูกบล็อกช่องทางการติดต่อและไม่ยอมคืนเงิน อีกทั้งยังถูกผู้ต้องหาแจ้งความกลับจนถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบถามหนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงประมาณปี 2565 ได้พบเห็นประกาศรับสมัครหาคนไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ทางโซเชียลมีเดีย ให้รายได้ดี วันละ 8,500 เยนต่อวัน จึงเกิดสนใจ จึงได้ติดต่อทักไปหาคนที่โพสต์ประกาศ ก่อนมีการพูดคุยถึงรายละเอียดการทำงานจนผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินผู้ต้องหา เป็นเงินคนละ 29,990 – 100,000 บาท เป็นค่าดำเนินการ หลังจากโอนเงินให้ผู้ต้องหาแล้ว ได้มีการนัดหมายกำหนดวันที่จะเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ได้รับการเลื่อนวันเดินทางเรื่อยมาถึง 2 ครั้ง โดยอ้างว่า มีคนแจ้งเจ้าหน้าที่ ตม. และกรมแรงงาน ว่าจะมีการพาคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายที่ประเทศญี่ปุ่น จึงยับยั้งการเดินทางออกไปก่อน 

โดยผู้ต้องหาได้ยื่นข้อเสนอให้ผู้เสียหายเป็น 2 ข้อ คือคนที่จะไปต่อ ก็จัดเดินทางอีกครั้ง  ส่วนคนที่ไม่ไปต่อจะคืนเงินให้ ทำให้ผู้เสียหายแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มคนที่ไม่ไปต่อก็พยายามติดต่อขอเงินคืน แต่ก็ถูกผลัดวันออกไปเรื่อยๆ โดยใช้ข้ออ้างต่างๆ ส่วนกลุ่มคนที่มีความต้องการที่จะไปต่อ กลับถูกเลื่อนการเดินทางออกไปเรื่อยๆ ไม่ได้เดินทางจริง จึงติดต่อขอเงินคืน แต่ก็ไม่เคยได้เงินคืน

จากการสอบผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม