ตำรวจทางหลวงตรวจยึดตับไก่เถื่อน กว่า 20 ตัน พบมีขบวนการทำเอกสารการขนซากสัตว์ปลอม

เมื่อ 21 ก.ย.66 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. , กำลังเจ้าหน้าที่ ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. ร่วมกับ นายสุขุม สนธิพันธ์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี ตรวจยึดรถบรรทุกเทรนเลอร์ ทะเบียนจังหวัดสงขลา ภายในมีตับไก่ นำหนักประมาณ 20,000 กิโลกรัม (20 ตัน) , ใบอนุญาตให้นำหรือเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ 

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง (ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.) ได้ออกตรวจเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งจากสายลับ (ไม่ประสงค์ออกนาม) ว่าจะมีรถบรรทุกเทรนเลอร์ ทะเบียนจังหวัดสงขลา วิ่งในทิศทางจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มุ่งหน้าจังหวัดเพชรบุรี บนเส้นทางบายพาสชะอำ ซึ่งต้องสงสัยว่าภายในตู้ได้บรรทุกสิ่งของน่าสงสัยว่าจะผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจสอบจึงได้สังเกตการณ์ บริเวณเส้นทางหลวง จนกระทั่งรถบรรทุก ทะเบียนสงขลา วิ่งผ่านมาซึ่งตรงกับรถคันที่สายลับแจ้ง จึงได้ขับรถติดตามและส่งสัญญาณให้หยุดรถ บริเวณหน้าหน่วยบริการตำรวจทางหลวงชะอำ พบนายอภิสิทธิ์ฯ เป็นคนขับ สอบถามนายอภิสิทธิ์ แจ้งว่าเป็นชิ้นส่วนตับไก่

เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบเอกสารจาก นายอภิสิทธิ์ได้แสดงใบอนุญาตการเคลื่อนย้ายซากสัตว์ฯ และหนังสือรับมอบอำนาจฯ แต่พบข้อพิรุธว่า นายอภิสิทธิ์ ยังไม่ได้ลงลายมือชื่อในหนังสือรับมอบอำนาจ จึงได้เชิญให้ข้อมูลเพิ่มเติม จากการสอบถามนายอภิสิทธิ์ ได้ให้ข้อมูลว่า รับแจ้งจากนายไก่ (ไม่ทราบชื่อจริง) ว่าให้ไปรับสินค้าที่ลานตู้จุดพักสินค้าสงขลา เพื่อไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ หมู่ 8 ต.บางเลน อ.บางเลน  จ.นครปฐม

นอกจากนี้ได้ประสาน นายสุขุม สนธิพันธ์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี เพื่อมาร่วมตรวจสอบโดยตับไก่บรรจุในถุงพลาสติกใส และใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีดำอีกชั้นหนึ่ง ประมาณ 20,000 กิโลกรัม  จึงได้สอบถามไปยังบริษัทต้นทาง ได้ความว่าไม่ได้มีการส่งสินค้าดังกล่าว ออกจากบริษัทเพื่อไปส่งให้ลูกค้า ในพื้นที่ หมู่ 8 ต.บางเลน อ.บางเลน  จ.นครปฐม แต่อย่างใด ส่วนรายชื่อนายสุพรรณฯ ที่ระบุชื่อในเอกสารก็ไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัท และไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนอีกด้วย

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงสันนิษฐานว่าเครือข่ายผู้กระทำความผิดได้แอบอ้างชื่อของบริษัทต้นทาง แจ้งให้เจ้าพนักงานปศุสัตว์ จดข้อความอันเป็นเท็จ เพื่อให้ได้มาซึ่งเอกสารการขนส่งที่ถูกต้อง และรอดจากการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ จึงยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ เพื่อดำเนินการตามกฏหมาย และทำการสืบสวนขยายผลหาเครือข่ายผู้กระทำความผิดต่อไป