วันที่ 22 กันยายน 2566 เวลา 11:51 น.
วันที่ 22 กันยายน 2566 จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพหญิงรายหนึ่งและภาพของเด็ก พร้อมระบุข้อความว่า “อบต.ศาลาลอย ที่ทำงานป้าต้องช่วยเหลือแล้วมั้ง ท่านนายก อบต.ไม่รู้เลยรึว่าลูกน้องท่าน ต้องเดินไปกลับจากบ้านมาทำงานกลับ 30 กม. ท่าเรือกับสระบุรีมันไกล มั้ย” จนมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายเสกสันติ สินทรจันทร์ ปลัด อบต.ศาลาลอย กล่าว่า หญิงที่ปรากฏในภาพคือ นางวรรณา เขจรลาภ อายุ 55 ปี ไม่ได้ทำงานหรือเป็นพนักงานของอบต.ศาลาลอย ซึ่ง ทางอบต.เคยจ้างเหมาบริการ เป็นแม่บ้านทำความสะอาดศูนย์พักคอย ช่วงสถานการณ์โควิด 19 ระยะสั้น ๆ เท่านั้น และมีบ้านพักใกล้กับ อบต. ห่างประมาณ 150 เมตรเท่านั้น โดยนางวรรณาอยู่กันเป็นครอบครัว มีแม่อายุมากแล้ว 1 คน มีลูกชาย 3 คน อยู่ที่กรุงเทพฯ และ ลูกสาว 1 คนที่ป่วยติดเตียง ทาง อบต.ได้ให้ความช่วยเหลือตลอด และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ความช่วยเหลือตามขอบเขตอำนาจ
จากนั้น ทางปลัดอบต.ศาลาลอย พร้อมเจ้าหน้าที่ได้พาผู้สื่อข่าวเดินจากอบต.ศาลาลอย ไปบ้านของ นางวรรณา ซึ่งอยู่ด้านหลังอบต.เพียง 150 เมตร เมื่อไปถึงบ้านก็ไม่พบกับนางวรรณา พบเพียงแม่ของ นางวรรณา ส่วนลูกสาวของนางวรรณาที่ป่วยติดเตียง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยาได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเนื่องจากหมอนัดรักษาตัว ส่วนนางวรรณาทราบว่าออกไปทำงานตั้งแต่เช้าที่ จ.สระบุรี
ด้าน นางจรัสศรี อัศวเดชาชาญยุทธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 กล่าวว่า นางวรรณาไม่ได้ทำงานอยู่ที่ อบต.ศาลาลอย และล่าสุดเห็นว่าทำงานอยู่ที่ จ.สระบุรี โดยช่วงเช้าจะเดินทางออกจากบ้านไปขึ้นรถตู้ เพื่อไปทำงาน แต่เวลาช่วงเลิกงานกลางดึกไม่รู้ว่านางวรรณาเดินทางกลับบ้านอย่างไร และทาง อบต.ศาลาลอย รวมทั้ง อสม. ผู้ใหญ่บ้านก็ลงมาดูแล
“ตลอดเวลาแต่ไม่ทราบว่า นางวรรณาเดินเท้าจากบ้านไปที่ทำงาน 30 กิโลเมตร จริงหรือไม่ ทั้งที่ก็มีรถรับจ้าง หรือปั่นจักรยานไปทำงานก็ได้ ส่วนตอนนี้ลูกชายของนางวรรณาทั้ง 3 คนก็เคยบอกกับตนว่า บอกแม่ให้เลิกขอความช่วยเหลือ และให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้ เพราะทางบ้านไม่ได้ขัดสนขนาดที่ต้องมารับบริจาคตามที่เป็นข่าว” เบื้องต้นทางปลัดและทางเจ้าหน้าที่ อบต. และผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อกับนางวรรณา เพื่อสอบถาม รายละเอียด แต่ติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้