วันที่ 13 กันยายน 2566 เวลา 16:22 น.
อธิบดีกรมการปกครอง สั่งคุมเข้มพฤติกรรม-ใช้อาวุธปืนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ป้องซ้ำรอย ‘กำนันนก’ ฝ่าฝืน โทษถึงไล่ออก
เมื่อวันที่ 13 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามในหนังสือด่วนที่สุดที่ 0310.2/ว 26209 ลงวันที่ 12 กันยายน ถึงผู้ว่าราชการ ทุกจังหวัด เรื่อง มาตรการควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ระบุว่า ตามที่กรมการปกครองแจ้งกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในการประพฤติตน และการใช้อาวุธปืน ในการปฏิบัติหน้าที่ และเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการรักษาความสงบเรียบร้อย
โดยมุ่งประสงค์ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ดี มีเกียรติ และศักดิ์ศรีความเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยืดมั่นและยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง มีความซื่อสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบ ต้องรักษาชื่อเสียงของตน และรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มิให้เสื่อมเสียเป็นแบบอย่างที่ดีของเจ้าหน้าที่รัฐ และบุคลากรภาครัฐที่ปฏิบัติราชการในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
หนังสือ ระบุว่า แต่ปัจจุบันยังปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนหรือสื่อสังคมออนไสน์เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติตนของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ไม่เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย นโยบายของรัฐบาล กระทำตนเป็นผู้มีอิทธิพล ดังเช่นกำนันต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม จนครปฐม ถูกจับกุมในคดีอาญาในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น อันเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และอยู่ในความสนใจของประชาชน
จากสาเหตุดังกล่าว จึงทำให้เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ต่อสถาบันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาพลักษณ์กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งสร้างความไม่ไว้วางใจจากประชาชน และประเทศชาตินั้น หนังสือ ระบุอีกว่า กรมการปกครอง พิจารณาแล้วเห็นว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะผู้ปกครองท้องที่ระดับตำบล หมู่บ้าน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดูแลทุกข์สุขของราษฎรในท้องที่ ดังนั้น เพื่อให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเกิดภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่พึ่งของประชาชน และเป็นแบบอย่างที่ดี
จึงขอให้จังหวัดแจ้งอำเภอกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในการประพฤติตน และการใช้อาวุธปืนในการปฏิบัติหน้าที่ตามหนังสือกรมการปกครอง ด่วนที่สุด ที่ มท0310.2/12572 ลงวันที่ 24 พ.ค.65และหนังสือ ที่ มท 0310.2/ว8940 ลงวันที่ 8 เมษายน 2565 เรื่อง เน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการรักษาความสงบเรียบร้อย
หากปรากฏว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านประพฤติปฏิบัติตนไม่ถูกต้องเหมาะสม ไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย นโยบายของรัฐบาล หรือกระทำตนเป็นผู้มีอิทธิพลตามที่ปรากฏข่าว ให้นายอำเภอพิจารณาตามมาตรการทางปกครองและวินัย ดังนี้
1.ให้อำเภอแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านละเลยการปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง นายอำเภอสามารถสั่งลงโทษวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ได้แก่ ภาคทัณฑ์ ตัดค่าตอบแทน และลดอันดับเงินเดือนไม่เกินหนึ่งอันดับ
2.หากกรณีดังกล่าวเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ให้นายอำเภอรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง หากผลการสอบสวนมีมูลความผิดจริง สามารถลงโทษ ปลดออก หรือไล่ออกจากตำแหน่งตามพ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 62 ทวิ อนึ่ง เมื่อผู้ว่าฯ พิจารณาแล้วมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงกำนัน ผู้ใหญ่บ้านแล้ว นายอำเภอ ใช้ดุลพินิจสั่งพักหน้าที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อรอผลการสอบสวนทางวินัย
3.หากนายอำเภอพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นการบกพร่องในหน้าที่ หรือประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ให้นายอำเภอแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อสอบสวนให้ได้ความว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีพฤติกรรมบกพร่องในหน้าที่หรือประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง แล้วรายงานผู้ว่าฯ เพื่อมีคำสั่งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 14(7)
4.หากพบว่ากรณียังไม่มีมูลให้ดำเนินการทางวินัย ให้นายอำเภอว่ากล่าวตักเตือนให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เกิดผลดีต่อราชการ และ 5.กรณีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านผู้ใดประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เอาใจใส่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ให้จังหวัดดำเนินการยกย่องชมเชยให้ปรากฏเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น แล้วรายงานให้กรมการปกครองทราบ
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน