หน้าแรก > อาชญากรรม

ปคม.รวบ 2 ผัว-เมีย นายหน้าหลอกสาวไทยทำงานนวดต่างแดนสุดท้ายบังคับค้าประเวณี

วันที่ 6 กันยายน 2566 เวลา 23:31 น.


ปคม.รวบ 2 ผัว-เมีย นายหน้าหลอกสาวไทยทำงานนวดต่างแดนสุดท้ายบังคับค้าประเวณี

6 ก.ย.66 พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย นำโดย พ.ต.ท.กิตติพงศ์ อมฤตโอฬาร สว.กก.4 บก.ปคม. ,พ.ต.ท.พัฒษพงศ์ เสณีแสนเสนา สว.กก.4 บก.ปคม., ด.ต.อนุรักษ์ สุทธิแสน, จ.ส.ต.อภิวัฒน์ นาคจีน ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม นายนิรุช ฯ อายุ 41 ปี  และ น.ส.จุฑามาศ หรือวรรณ ฯ อายุ 40 ปี

​ในความผิดฐาน “สมคบกันตั้งแต่สองคนขี้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และผู้ที่สมคบกันคนหนึ่งคนใด ได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน, ร่วมกันค้ามนุษย์ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปหรือโดยสมาชิกขององค์กรอาชญากรรมกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี หรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, เพื่อสนองความใคร่ ร่วมกันเป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง รับตัวบุคคลหรือเด็กซึ่งมีผู้จัดหาล่อไปหรือชักพาไปเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น, เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร โดยใช้อุบายหลอกลวง” จับกุมได้ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา และ ปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา

สืบเนื่องจากผู้เสียหายถูกเพื่อนที่รู้จักชักชวนให้ไปทำงานร้านนวดแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้นแนะนำให้ติดต่อทางแอพพลิเคชั่นวอตส์แอปป์ กับ น.ส.จุฑามาศ เพื่อสอบถามรายละเอียดการเดินทางไปทำงาน รวมถึงการเตรียมวีซ่า จองโรงแรม และจองตั๋วเครื่องบินในการเดินทาง พร้อมกับให้ติดต่อกับบุคคลซึ่งอยู่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเรียกว่า มาดามไทย เพื่อสอบถามรายละเอียดการทำงาน จากนั้นนัดหมายผู้เสียหายมาพบที่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา ต่อมาน.ส.จุฑามาศ และนายนิรุช ขับรถไปส่งผู้เสียหายที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และขึ้นเครื่องตามปกติ กระทั่งผู้เสียหายไปถึงประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีชายชาวต่างชาติขับรถมารับไปต่อยังบ้านพักแห่งหนึ่งพร้อมพาไปร้านนวด ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง

ต่อมามีหญิงจีน หรือมาดามจีน และชายพูดภาษาจีน มาตกลงพูดคุยเพื่อขอซื้อตัวผู้เสียหายอีกต่อหนึ่ง โดยเป็นการพูดคุยผ่านมาดามไทย ซึ่งฝั่งประเทศดังกล่าวเก็บเอาเอกสารหนังสือเดินทางของผู้เสียหายไว้ เมื่อเจราจาสำเร็จพาผู้เสียหายไปร้านนวดอีกแห่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงแรมในเมืองฟูไจราห์ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตลอดระยะเวลาที่ทำงาน ผู้เสียหายทำหน้าที่นวดปกติ แต่ไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด โดยทางกลุ่มผู้ต้องหาระบุว่า หากเป็นการนวดแอบแฝงค้าประเวณีจึงจะมีรายได้จากการทำงานดังกล่าว แต่ก็ต้องนำมาชำระหนี้หักค่าใช้จ่ายการเดินทาง เป็นเหตุให้ผู้เสียหายต้องจำยอมทำการนวดแฝงค้าประเวณีเพื่อหาเงินมาจ่ายคืนค่าเดินทาง รวมถึงค่าใช้จ่าย ต่างๆ ที่ผู้เสียหายต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด โดยจะถูกจำกัดพื้นที่ ถูกยึดหนังสือเดินทาง และหากออกไปข้างนอกต้องมีคนของมาดามจีนติดตามคอยควบคุมตลอดเวลา ความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายตัดสินใจวางแผนและหาโอกาสหลบหนีออกมาจากร้านนวด และเข้ามาขอความช่วยเหลือมูลนิธิและกงสุลประเทศไทย จนได้รับความช่วยเหลือและเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้ ก่อนมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคม. เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาจนออกหมายจับ สอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม