30 ส.ค. 66 ที่พรรคเสรรีรวมไทย พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณี ลาออกจากตำแหน่ง สส. โดยระบุว่า ได้ยืนหนังสือลาออกไปตั้งแต่วันที่โหวตนายกฯ จบ เมื่อการเลือกตั้งจบแล้วทางพรรคได้รับเลือกแค่เพียงคนเดียว ทั้งที่ทางพรรคมีผู้สมัครที่มีความสามารถมากมายแต่ไม่ได้ถูกประชาชนเลือกเขามาทำหน้าที่
ในเมื่อพี่น้องประชาชนไม่ต้องการพรรคเสรีรวมไทย แล้วผมจะไปนั่งในสภาเพื่ออะไร ผมไม่ยึดตำแหน่งอะไร ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเป็นแบบนี้เราเลยอยากเสียสละให้เบอร์ 2 ได้ทำงานบ้าง เพราะตนทำมา 4 ปี แล้ว ผมไม่อยากยึดติดแบบคนอื่นที่เป็นนายกฯ มา 2 สมัย หรือเป็นประธานสภามา 2 สมัย เป็นมาขนาดนี้ยังไม่รู้จักพออีก ไม่ปล่อยให้รุ่นลูกรุ่นหลานนั่งบ้าง 

“คนรุ่นนี้คงไม่คิดแบบตน ตนอยากให้คนของพรรคมีโอกาสได้ทำงานสร้างประสบการณ์บ้าง ถามว่าทำไมเพิ่งจะมาลาออกหลังโหวตนายกเสร็จ เพราะต้องช่วยในการจัดตั้งรัฐบาล ในตอนแรกที่ก้าวไกลได้ตั้งรัฐบาลตนก็ช่วยเต็มที่ หาเสียง สว. คุยกับชาติไทยพัฒนา, ประชาธิปัตย์ บ้างทีคนที่พรรคก้าวไกลยังคิดไม่ได้เลย ในเมื่อเรามีหน้าที่เราก็ต้องช่วยเขา จนกระทั่งมันเป็นไปไม่ได้ เพาะ สส. สว. ไม่เอา”

เมื่อมาถึงพรรคเพื่อไทย ตนก็ยังงงอยู่ว่าเพราะเหตุใดก้าวไกลไม่โหวตให้ เพราะถ้าก้าวไกลโหวตให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาลุง อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยเหลือ ภาระกิจในการสนับสนุนก้าวไกลและเพื่อไทยสำเร็จแล้ว ก็ขอยุติบทบาทเพื่อให้คนในพรรคได้ทำงานแทน

เมื่อถามว่าการลาออกครั้งนี้เพราะผิดหวังไม่ได้ตำแหน่งหรือไม่ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า “ผมไม่ได้ผิดหวังอะไร แต่จากการเลือกคน ไปตั้งใครไม่รู้ ทั้งอดีตนักโทษ คนที่เคยติดคุกมา คนที่ไม่มีประสบการณ์ อย่าง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่มีชื่อติดโผ เคยถูกไล่ออกกจากราชการเพราะประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ที่ทำหน้าที่แล้วมีคนตาย แม้ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเป็นหัวหน้า คสช.จะยกโทษให้ แต่ความผิดนั้นยังคงอยู่”

เมื่อถามถึงกรณีที่ทนายยื่นตรวจสอบ พล.ต.อ.พัชรวาท เพราะเป็นผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีที่มีลักษณะต้องห้าม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เหตุผลต้องยื่นเพื่อไม่ให้เลขาธิการสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ติดคุก เนื่องจากเป็นผู้ที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี แต่หากเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบไม่ผิด ตนจะตรวจสอบต่อเอง หากกรณีนี้ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าขาดคุณสมบัติ เชื่อว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่กำกับ  สลค.ต้องรับผิดชอบ ขณะที่ประเด็นของนายพิชิต ชื่นบาน ที่คาดว่าจะรับตำแหน่งรัฐมนตรีสำนักนายกฯ นั้น ยังไม่ได้ตรวจสอบ

หลังจากนี้ตนก็จะโฟกัสการทำงานในฐานะหัวหน้าพรรค ยืนยันไม่เคยมีสัญญากับพรรคเพื่อไทยว่า จะให้ตำแหน่งย้อนไปดูได้ แต่พรรคก้าวไกลเสนอตำแหน่งให้จริง ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกผิดหวังที่เพื่อไทยไม่ได้ให้ตำแหน่งในรัฐบาล แต่เพียงเห็นว่าไม่รู้ตั้งใครขึ้นมาเป็น รมต. เห็นแล้วจะบ้าตาย เราทำหน้าที่ของเราเสร็จสิ้นแล้วก็จบ ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตนจะลาออกจาก สส. แต่ยังเป็นรัฐบาลอยู่