วันที่ 28 สิงหาคม 2566 เวลา 01:46
"ดีพร้อม" ตั้งเป้ายกระดับ เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ชูชุมชนเลี้ยงชันโรงบ้านทับมา จ.ระยอง วิสาหกิจต้นแบบสร้างรายได้สู่ชุมชน
วันที่ 27 สิงหาคม 2566 นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมคณะ และเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ "ดีพร้อม" (DIPROM) ลงพื้นที่ จ.ระยอง เยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา เป็นวิสาหกิจชุมชนที่มีการรวมกลุ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2563 ปัจจุบันมีสมาชิก 45 คน มีรังชันโรง รวมทั้งสิ้น 300 รัง โดยเป็นชันโรงสายพันธุ์ขนเงิน ให้น้ำหวานและชันที่มีส่วนประกอบของสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งเป็นสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ โดยสารฟลาโวนอยด์ที่มีในผลิตภัณฑ์ของทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ จะอุดมไปด้วย แมงโกสทีน ฟลาโวนอยด์ (Mangosteen Flavonoid) ที่ได้จากเกสรของดอกมังคุด ซึ่งมีเฉพาะในพื้นที่เท่านั้น
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ซึ่งได้นำแนวทาง ESG มาปรับใช้ในระดับวิสาหกิจชุมชน คือ ส่งเสริมให้เกิดรายได้ สร้างเครือข่ายความร่วมมือ ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน พร้อมต่อยอดสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อตอบโจทย์ BCG (Bio Economy, Circular Economy, Green Economy) โดยมี SCGC ให้การสนับสนุนและถ่ายทอดองค์ความรู้ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับชุมชนและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่อไป ซึ่งทำให้ธุรกิจที่โตแบบยั่งยืน
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ให้การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะ SCGC เพื่อเป็นเครือข่าย Social Enterprise ซึ่งประกอบไปด้วยภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งได้มีการร่วมทำงานเพื่อชุมชนมาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านวิสาหกิจชุมชน เรื่อง การเงิน บัญชี และภาษี การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน การนำเสนอและจัดวางสินค้าในการจำหน่ายสินค้า มีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าใน modern trade ปีละ 3-5 ครั้ง สร้างมูลค่าเพิ่มได้มากกว่า 2 ล้านบาทต่อปี และอื่นๆ เป็นเวลากว่า 7 ปี
โดยในปีนี้มุ่งเป้าไปที่การเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรฟาร์มผึ้ง ผ่านการส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งชันโรงที่มีคุณสมบัติพิเศษและราคาแพงกว่าน้ำผึ้งทั่วไป เพื่อให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่สามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี โดยนำงานวิจัยมาใช้ประโยชน์ภายใต้ความร่วมมือของสมาชิกเครือข่ายฯ พัฒนาการเพาะเลี้ยงและพัฒนาสูตรอาหารที่เหมาะสมกับผึ้งชันโรงในแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งปัจจัยสำคัญคือการเพิ่มคุณค่าของน้ำผึ้งชันโรงที่ผลิตได้ เพื่อให้มีคุณาพและมูลค่าสูง ขยายผลไปสู่การผลิตสินค้าที่มีความหลากหลาย สำหรับผลิตภัณฑ์ของทางกลุ่มฯ เป็นน้ำผึ้งชันโรงที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันและช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง มีสรรพคุณทางยา มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ สมานแผล และช่วยบำรุงสมอง
นอกจากจะได้น้ำผึ้งชันโรงเพื่อจำหน่ายแล้ว ทางกลุ่มฯ ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสารสกัดพรอพอลิส (Propolis) และเกสรของผึ้งชันโรง อาทิ สบู่ ยาหม่อง น้ำมันหอมระเหย ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้น รวมถึงจำหน่ายและรับซื้อคืนรังเลี้ยงชันโรงจากสมาชิกเพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้กับสมาชิกในกลุ่มต่อไปอีกด้วย ซึ่งถือเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต้นแบบที่น่ายกย่องและเป็นแบบอย่างแก่วิสาหกิจชุมชนอื่น