หน้าแรก > สังคม

หมอเตือน! เฝ้าระวังเด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 1 ขวบ หลังพบ ไวรัส RSV ระบาด ในเมืองโคราช เสี่ยงหลอดลมฝอยอักเสบ ติดเชื้อในปอดได้ง่ายกว่าเด็กโต

วันที่ 25 สิงหาคม 2566 เวลา 20:40 น.


25 ส.ค.66 นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ รพ.มหาราชนครราชสีมา เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ไวรัส RSV ระบาด ตามคาด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา พบแทบทุกโรงเรียนในเมืองโคราช เฉพาะการออกตรวจของหมอจิรรุจน์ ช่วงเช้าวันเดียว จะเป็น 10 คนแล้ว

สำหรับโรคไวรัส RSV อาการ หลักๆคือ ไข้สูง ไอน้ำมูก ถ้าผ่าน 3 วันแรกไปได้นับจากวันที่มีไข้สูง ก็มักจะไม่มีการติดเชื้อรุนแรงซ้ำซ้อน หรือง่ายๆก็คือ ถ้าจะแย่ก็แย่ใน 3 วันนี้ กลุ่มเสี่ยงอาการหนักคือ อายุน้อยกว่า 1 ขวบโดยเฉพาะที่น้อยกว่า 6 เดือน มีโอกาสหลอดลมฝอย อักเสบและติดเชื้อในปอดได้ง่ายกว่าเด็กโต ส่วนเด็กที่อายุเกิน 3 ขวบไปแล้ว หากไม่มีโรคประจำตัว ก็ดูเหมือนจะเป็นหวัดธรรมดาทั่วไป คือเป็นไข้ น้ำมูกไหล 2 วันจากนั้นหายเอง ส่วนในผู้ใหญ่ อาการที่พบก็คือหวัดธรรมดา บางคนไม่มีไข้ด้วยซ้ำ ดังนั้น ผู้ใหญ่หลายคน ที่มีน้ำมูกแล้วคิดว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้ ขอไปสัมผัสเด็กเล็ก ก็กลายเป็นคนที่พาเชื้อไปสู่เด็กเหล่านั้น

หมอจิรรุจน์ ระบุด้วยว่า ความน่ากังวลก็คือ เด็กอายุน้อย ที่ติดเชื้อนี้ก็คือ เสี่ยงต่อการ ติดเชื้อในปอดและระบบหายใจล้มเหลว การรักษา เป็นเพียงการรักษาตามอาการ มีไข้กินยาลดไข้เช็ดตัว หลีกเลี่ยงการใช้ยาลดน้ำมูก เพราะอาจทำให้เสมหะเหนียว แล้วอุดตันในทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กน้อยกว่า 1 ขวบ ที่เหลือคือเฝ้าระวัง สังเกตการหายใจ และรอเด็กค่อยๆ จัดการกับตัวไวรัสด้วยภูมิต้านทานของเขาเอง

สำหรับวิธีป้องกัน เนื่องจากเชื้อตัวนี้ยังไม่มีวัคซีนยังไม่มียาต้านไวรัสที่ใช้โดยเฉพาะ การป้องกันจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด สวมหน้ากากล้างมือ เด็กโตที่มีอาการป่วยบ่อยๆ อย่าให้ไปสัมผัสไปหอมไปจับ เด็กตัวเล็กๆ เจลแอลกอฮอล์สเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือยังใช้ได้ดี ในการฆ่าเชื้อ โดยเฉพาะในเด็กที่ป่วย แนะนำให้ฉีดพ่นมือตัวเองบ่อยๆ เพื่อจะไม่นำเชื้อ จากมือของตนเองไปติดตามที่ต่างๆ รวมถึงผู้ปกครองที่ต้องดูแลเด็กเล็ก ก่อนจับเด็กควรล้างมือเสมอ อย่านอนด้วยกัน หรือถ้าต้องนอนห้องเดียวกัน ตัวเด็กป่วยอย่าให้อยู่เหนือลม และอย่านอนที่เดียวกันกับเด็กคนเล็ก เพราะไวรัสนี้ปนเปื้อนง่ายมาก

โรงเรียนที่มีเด็กเจ็บป่วย ด้วยเชื้อ RSV หลายคนในห้อง ควรแจ้งผู้ปกครองให้ทราบ เพื่อจะได้สังเกตอาการ เด็กอื่นๆ ที่ร่วมห้อง ขณะเดียวกัน โรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก ไม่ควรรับเด็กที่มีอาการไข้ไอน้ำมูก มาดูแลในช่วงเวลานี้ เพื่อช่วยในการควบคุมโรค ตอนนี้ไม่ใช่แค่ RSV จริงๆ ก็มีไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ซึ่ง มีเด็กป่วยจำนวนมาก และก่อนหน้านี้ก็มีเด็กเสียชีวิตแล้ว ยังโชคดีที่ ไข้หวัดใหญ่สามารถลดความรุนแรงได้ด้วยการฉีดวัคซีน

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม