ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 6  ในคดีทุจริตก่อสร้างสถานีตำรวจ หรือ"โรงพักทดแทน" จำนวน 396 แห่งทั่วประเทศ 

เวลา 10.00 วันที่ 22 ส.ค.66 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อม.อธ.11/2565 ซึ่ง ป.ป.ช. ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และพวกจำนวน 6 คน ร่วมกันฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง วงเงินงบประมาณ จำนวน 5,848 ล้านบาท วันนี้นายสุเทพ พร้อมพวก ประกอบด้วย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ , พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์ , บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และนายวิศณุ วิเศษสิงห์  ได้เดินทางมาที่ศาลเพื่อรับฟังคำพิพากษาของศาลชั้นอุทธรณ์ด้วยตัวเอง 

โดยศาลระบุได้พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วยืนยกฟ้องนายสุเทพพร้อมพวก เพราะเห็นว่าการกระทำของนายสุเทพที่ได้อนุมัติโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2552 โดยมิได้เสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติเป็นดุลยพินิจที่สามารถทำได้ ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบสัญญเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ให้เป็นผู้มีสิทธิ์ทำสัญญากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพราะเชื่อได้ว่าเจ้าของโครงการได้ศึกษารายละเอียดมาเป็นอย่างดีแล้ว จึงไม่ได้เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 การกระทำของโจทก์ตามฟ้องจึงฟังไม่ขึ้น

สำหรับสถานีตำรวจ 396 แห่ง เดิมปล่อยทิ้งร้างผ่านมา 10 ปี ปัจจุบันได้สร้างเสร็จเปิดใช้งานแล้ว มีการของบประมาณที่ป็นภาษีประชาชนทำต่อจนเรียบร้อย แต่ค่าชดเชยเสียหายนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชัน

จำกัด และศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 ให้บริษัท พีซีซี ต้องชดใช้ค่าเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 1,500 ล้านบาท ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เส้นทางการต่อสู้ทางคดียังเหลืออีกชั้นคือศาลปกครองสูงสุด