หน้าแรก > ภูมิภาค

คุณตาวัย 70 ปีปั่นรถจักยานออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อจะไปวัด จนถึงบ่ายลูกชายเอะใจพ่อยังไม่กลับ ออกตามหาเจอรถจักรยานล้ม มีสุนัขที่พ่อเลี้ยงนอนเฝ้าศพอยู่ไม่ห่าง

วันที่ 21 สิงหาคม 2566 เวลา 05:15 น.


คุณตาวัย 70 ปีปั่นรถจักยานออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อจะไปวัด จนถึงบ่ายลูกชายเอะใจพ่อยังไม่กลับ ออกตามหาเจอรถจักรยานล้ม มีสุนัขที่พ่อเลี้ยงนอนเฝ้าศพอยู่ไม่ห่าง

เวลา 17.00 น. วันที่ 20 สิงหาคม 2566 ร.ต.อ.ชัยชาญ ประเสริฐวงษ์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.พนัสนิคม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียงพนัสนิคม ว่ามีคนพบศพผู้เสียชีวิตในป่าหญ้าข้างทางลูกลังเรียบคลองส่งน้ำ หมู่ 6ตำบลนาเริกอำเภอพนัสนิคมจังหวัดชลบุรีหลัง

รับแจ้งจึงรีบรุดเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนแพทย์เวรโรงพยาบาลพนัสนิคมและสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียงพอเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นถนนดินลูกลังข้างทางเป็นป่าหญ้ามีท้องนาและเป็นคลองน้ำ ช่วงบริเวณบนถนนพบรถจักรยานสีชมพูด้านหลังมีหม้อผูกติดอยู่ และบริเวณป่าหญ้าห่างจากถนนประมาณ 2เมตร พบศพนายอุดม อายุ 70 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนตะแครง สวมเสื้อเชิ้ต ลายดอก สวมกางเกงขาสั้นสีเทา ในตัวพบเงินจำนวน 70บาทอยู่ในกระเป๋ากางเกงตรวจสอบที่บริเวณแขนซ้ายมีรอยหนังถลอกเหมือนถูกแสงแดดเผาจนลอกตามตัวไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างไดและยังพบสุนัขพันธ์ไทยสีน้ำตาลที่นอนเฝ้าศพอยู่ไม่ห่างด้วยท่าทีเศร้าซึมเหมือนรู้ว่าเจ้าของจากไปแล้วซึ่งคาดว่าน่าจะนอนเฝ้าศพอยู่ตั้งแต่เช้า

จากการสอบถามนายเทียนชัย ซึ่งเป็นลูกชายที่ออกตามหาพ่อและยังเป็นคนพบศพคนแรกเล่าว่าเมื่อช่วงตอนเช้าวันนี้พ่อได้บอกกับตนว่าจะออกไปวัดที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนักเพื่อจะไปเอาข้าวจากพระเพื่อนำมากินและวันนี้พ่อก็จะเอาหม้อไปคืนด้วยซึ่งตนเองก็ไม่ได้สงสัยอะไรเพราะพ่อมักจะปั่นรถจักรยานไปวัดเป็นประจำทุกวันอยู่แล้วและตนก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปหาจับปลาไหลเหมือนอย่างที่เคยทำ

แต่พอเวลาผ่านไปถึงช่วงบ่าย4โมงตนเองกลับมาบ้านและไม่เห็นพ่ออยู่ที่บ้านจึงแปลกใจเลยขี่รถออกมาตามเส้นทางที่พ่อปั่นรถจักรยานมา และก็ได้มาพบรถจักรยานของพ่อล้มคว่ำอยู่จึงรีบจอดรถลงมาดูและมองไปที่ก่อต้นหญ้าก็เห็นว่าเป็นทางจึงเข้ามาดูก็เห็นร่างของพ่อนอนอยู่จึงรีบเข้ามาเรียกแต่พ่อไม่ตอบและก็พบว่าพ่อเสียชีวิตแล้วจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยเพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานคาดว่าผู้ตายอาจจะมีโรคประจำตัวโดยที่ตัวเองไม่รู้และปั่นรถจักรยานมาในช่วงที่อากาศร้อนทำให้เกิดวูป จึงทำให้ร่างกายทนไม่ไหว อย่างไรก็ตาม ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ และจะต้องส่งศพไปชันสูตรถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้งต่อไป  

เครดิต ฅนข่าวพนัสนิคม, ทีมข่าวสายเจาะ  

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม