พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ทล.1 บก.ทล.(อยุธยา) กล่าวว่า ตำรวจทางหลวงอยุธยา พบรถกระบะ ลักษณะเป็นเอนกประสงค์ 2 คัน

มีลักษณะต้องสงสัยบรรทุกเกิน  โดยพบเห็นอยู่บนต่างระดับบางปะหัน กำลังมุ่งหน้า ไปตามถนนนครหลวง-ภาชี จึงขับติดตามไป แต่เมื่อรถต้องสงสัยทั้ง 2 คัน เห็นเจ้าหน้าที่จึงเร่งเครื่องยนต์ ขับหลบหนี จึงได้วิทยุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วยสกัดจับกุมได้ที่บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟจราจร อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา รวมระยะทางกว่า กว่า 30 กิโลเมตร

จากการตรวจค้น พบแรงงานต่างด้าวชายหญิง สัญชาติพม่า อายุระหว่าง 20-30 ปี นั่งอัดแน่นมาภายในรถคันที่ 1 จำนวน 14 คน มีนายอนุพงษ์ อายุ 28 ปี เป็นคนขับ และคันที่สอง พบแรงงานต่างด้าวชาย-หญิงนั่งอัดแน่นภายในรถ รวม 14 คน มีนายวิชา อายุ 19 ปี เป็นคนขับ จากการตรวจสอบแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางต่างประเทศ

นายอนุพงษ์ และนายวิชา ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ไปรับแรงานต่างด้าวที่บริเวณป้ายข้างทางพื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก ทั้งหมด 28 ราย โดยขนแรงงานต่างด้าวมา คันละ 14 คน โดยขับตามกันมาเพื่อไปส่งในพื้นที่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา และได้รับค่าจ้างแบบเหมาทั้งคันละ 15,000 บาท รับจ้างคนแรงงานต่างด้าวมาแล้ว 3 ครั้ง

สอบสวนแรงงานต่างด้าวผ่านล่าม ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินเท้าลัดเลาะมาตามป่ามายังประเทศไทย ในพื้นที่ จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถ เดินทางมาทำงานก่อสร้างใน จ.พระนครศรีอยุธยา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาคนขับ ในข้อกล่าวหา รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรฯ ส่วนแรงงานต่างด้างถูกแจ้งข้อกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”