“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “วันแม่ 2023 ของ  คนต่างวัย” ซึ่งทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7-10 สิงหาคม 2566 จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,074 คน แบ่งเป็น 2 ช่วงวัยตามค่าเฉลี่ยอายุมัธยฐานของประชากรไทย ปี 2566 คือ 40 ปี

โดยแบ่งเป็น กลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปี และกลุ่มอายุ 41 ปีขึ้นไป พบว่าทั้ง 2 วัย (กลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปีและกลุ่มอายุ 41 ปีขึ้นไป) ถึงร้อยละ 77.17 ร้อยละ 76.04 ตามลำดับ  เห็นว่าวันแม่เป็นวันพิเศษที่ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน

โดยกลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปี ร้อยละ 88.26 มองว่าแม่ที่ดีจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก,  ร้อยละ 74.36 สนุกสนานไม่เครียด ส่วนกลุ่มอายุ 41 ปีขึ้นไป ร้อยละ 93.74 มองว่าต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกเช่นกัน  และ ร้อยละ 70.66 แม่ที่ดีควรสนับสนุนให้ลูกประสบความสำเร็จ

กลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปี มองว่าปัญหาความสัมพันธ์ระหว่าง “แม่-ลูก”อันดับ 1 คือ การแบ่งเวลา ไม่มีเวลาให้กัน ร้อยละ 66.99,  รองลงมาคือ การควบคุมอารมณ์ของแม่และลูก ร้อยละ 66.41,ส่วนกลุ่มอายุ 41 ปีขึ้นไปมองว่าปัญหาคือเรื่องการแบ่งเวลาเช่นกัน ร้อยละ 69.05  และการพูดคุยสื่อสารระหว่างกัน ร้อยละ 68.69

สำหรับกิจกรรมที่จะทำในวันแม่ปีนี้ ทั้ง 2 กลุ่มอายุคิดว่าจะรับประทานอาหารร่วมกัน ร้อยละ 84.25 และร้อยละ 78.86 ตามลำดับ โดยกลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปี คาดว่าจะใช้จ่ายในวันแม่ปีนี้เฉลี่ยประมาณ 3,100.30 บาท ส่วนกลุ่มอายุ 41 ปีขึ้นไป จะใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 2,393.50 บาท

โดยเมนูอาหารที่ทำให้คิดถึงแม่สำหรับกลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปี คือ เมนูแกงส้ม ร้อยละ 49.22 ส่วนกลุ่มอายุ 41 ปีขึ้นไป คือ เมนูไข่พะโล้ ร้อยละ 61.24