หน้าแรก > การเมือง

"ปดิพัทธ์" เผยไม่เครียด หากต้องพ้นจากตำแหน่งรองประธานสภา ชี้ ก็เป็นไปตาม รธน.

วันที่ 9 สิงหาคม 2566 เวลา 14:25 น.


เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุตามรัฐธรรมนูญหากพรรคก้าวไกล เป็นผู้นำฝ่ายค้าน นายปดิพัทธ์ จะต้องออกจากตำแหน่งรองประธานสภา ว่า สิ่งที่นายวิษณุพูดถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ทราบว่าเหตุใดรัฐธรรมนูญ 60 จึงเขียนแบบนี้ ประเทศอื่นก็ไม่ได้ห้าม แต่แน่นอนว่าในรัฐธรรมนูญได้บันทึกเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน พรรคก้าวไกล คงหารือกัน เพราะกลายเป็นว่าจะต้องเลือกตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง เนื่องจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะต้องไม่มีสมาชิกพรรคที่มาจากตำแหน่งใน ครม. ประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภา ถือเป็นกิจการภายในของพรรคก้าวไกล ตนไม่ขอก้าวล่วง และไม่ทราบรายละเอียดว่ามีการหารือกันหรือยัง เนื่องจากตนไม่ได้เข้าประชุมพรรค และเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรค ส่วนตนพร้อมทำหน้าที่ในทุกบทบาท หากไม่เป็นรองประธานสภา ก็ยังมีบทบาทของ สส.และกรรมาธิการฯ ก็ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มภาคภูมิเช่นกัน ไม่ได้รู้สึกเสียดาย

เมื่อถามว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน จะมีเงื่อนไขอย่างไรนั้น นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เพราะเรื่องของนายพิธา ก็กำลังเจออยู่ว่าเป็นความไม่แน่นอนของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ 

ส่วนจะมีโอกาสเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อรับตำแหน่งหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ส่วนจะทำให้สภา เป็นสภาของประชาชนอย่างไรนั้น หากต้องออก ตำแหน่งรองประธานสภานั้น นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ตนจะไปผลักดันต่อในคณะกรรมาธิการกิจการสภา และข้อเสนอหลายอย่างนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็เห็นด้วย และตรงกับวิสัยทัศน์ของเลขาธิการสภาอยู่แล้วจึงคิดว่า สิ่งที่ตนเสนอสามารถไปต่อได้ 

นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ที่มีปมปัญหาเยอะไปหมด ดังนั้น กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะมาจากประชาชนจริงๆ และเข้าใจกระบวนการ ว่าประเทศเราควรจะไปอย่างไร สร้างรัฐสภาแบบไหน ซึ่งไม่ใช่มีเฉพาะปมนี้ แต่ยังมีปมให้ สว.มาแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ซึ่งฝ่ายที่เครียดไม่ใช่ตนแต่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้และประชาชนที่จับตาดูอยู่

เมื่อถามว่ายังหวังหรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะกลับมาง้อขอร่วมรัฐบาล พร้อมขอโทษและขอขมาพรรคก้าวไกล เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้นั้น นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็น และเป็นงานของฝ่ายเจรจาที่จะไปเจรจากันเอง  ตนยังทำงานเต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน แต่รู้สึกแปลกที่พรรคอันดับ 1 ชนะเลือกตั้ง เสียงอันดับ 1 ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เป็นประธานสภา ไม่ได้เป็นรองประธานสภา และคิดว่าความแปลกพวกนี้เกิดจากรัฐธรรมนูญปี 60 กับการสืบทอดอำนาจของ คสช.ซึ่งคิดว่าอย่าไปคิดเป็นสาระที่จะต้องยึดเอาไว้

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม