วันที่ 9 สิงหาคม 2566 เวลา 09:56 น.
จากกระแสข่าวที่เผยแพร่อยู่บนโลกโซเชียล จนเกิดเป็นการตั้งคำถามถึงกรณีของคุณครู ว่า หากตีนักเรียน จะถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู จริงหรือ ?
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เผยว่าได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกระทรวงศึกษาธิการแล้ว พบว่าเป็นความจริง คำสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งพฤติกรรมของผู้ประกอบวิชาชีพครูที่ลงโทษนักเรียนด้วยการตี ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ในการสอน มีบุคลิกภาพไม่เหมาะสมกับการเป็นครู ถือเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ อันเป็นเหตุให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้กฎหมายที่เกี่ยวข้องได้แก่
1. พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 (มาตรา 51)
2. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 (ข้อ 5 และข้อ 6)
3. ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2548 (ข้อ 14 ข้อ 16 ข้อ 17 ข้อ 18 และข้อ 19)
4. ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ
พ.ศ. 2553 (ข้อ 56 (2))
มีการนำเสนอคดีผู้ประกอบวิชาชีพครู ได้ถูกกล่าวโทษว่าประพฤติผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ เนื่องจากมีพฤติกรรมหลายประการที่ไม่เหมาะกับการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ได้แก่ ลงโทษนักเรียนรุนแรงโดยไม่มีเหตุผล มีพฤติกรรมในทำนองลวนลาม และใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับนักเรียนหญิง ไม่เตรียมการสอน ไม่ให้ความรู้แก่นักเรียน มีพฤติกรรมบุคลิกภาพไม่เหมาะสมกับการประกอบวิชาชีพครู ซึ่งต่อมาคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพได้มีคำวินิจฉัยให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของผู้ฟ้องคดีเป็นเวลา 1 ปี
พฤติกรรมการทำโทษนักเรียนด้วยวิธีการตีนักเรียน เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อข้อ 5 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 เป็นการกระทำที่ส่งผลต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของนักเรียนหรือนักศึกษา
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์