วันที่ 7 สิงหาคม 2566 เวลา 13:30 น.
ขนส่งฯ เตือน! ประชาชนอย่าหลงเชื่อเพจมิจฉาชีพรับทำหรือต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ เผยพฤติกรรมมิจฉาชีพทำใบขับขี่ปลอมส่งให้ก่อนแล้วให้โอนเงินทีหลัง ย้ำ!อย่าโอนและอย่าโพสต์ใบขับขี่ของตนเองลงสื่อโซเชียลมีเดียอย่างเด็ดขาดเพราะเสี่ยงถูกนำภาพไปแอบอ้าง หากพบการปลอมแปลงใบขับขี่หรือแอบอ้างอบรมต่ออายุใบขับขี่แทน จะดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนขั้นสูงสุดทุกราย
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกดำเนินการตรวจสอบเพจมิจฉาชีพรับทำหรือต่ออายุใบขับขี่ปลอมที่กำลังระบาดอยู่ในโลกออนไลน์ในขณะนี้และดำเนินการทางกฎหมายในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง อีกทั้งประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแสมายังกรมการขนส่งทางบก และได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 491 ราย ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกยังตรวจพบเพจมิจฉาชีพ คือ
1. https://www.facebook.com/profile.php?id=100093086147500
2. https://www.facebook.com/profile.php?id=100094584344449...
โดยเพจดังกล่าวมีพฤติกรรมจะนำรูปตราสัญลักษณ์กรมการขนส่งทางบกมาใส่ในรูปโปรไฟล์ หรือนำรูปภาพของผู้ที่ได้รับใบขับขี่มาแอบอ้าง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ที่ประมาณ 1,500 - 6,000 บาท ซึ่งแพงกว่าค่าธรรมเนียมในการทำใบขับขี่ที่ถูกต้องเป็นจำนวนมาก กลุ่มมิจฉาชีพจะโฆษณาแอบอ้างว่า “รับทำหรือต่อใบขับขี่ ไม่ต้องมาสอบเองที่ขนส่ง ทางเราสอบให้ และเมื่อบัตรเสร็จเรียบร้อยถึงค่อยจ่ายเงิน” โดยมิจฉาชีพจะถ่ายรูปหรือส่งใบขับขี่ปลอมส่งให้ผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้ และหลังจากโอนเงินให้จะได้รับใบขับขี่ปลอมหรือเงียบหายไม่สามารถตามเงินคืนได้
กรมการขนส่งทางบก ขอเตือน!!!ประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อทำธุรกรรมกับเพจเหล่านี้เด็ดขาด!!! จะทำให้สูญเสียทรัพย์สินและเอกสารส่วนบุคคล และเสี่ยงได้รับใบขับขี่ปลอม ซึ่งผู้หลงเชื่อจะมีความผิดฐานปลอมแปลงหรือใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษถึงขั้นจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท และบุคคลที่แอบอ้างว่าสามารถอบรมต่ออายุใบขับขี่แทนได้ก็เข้าข่ายเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดซึ่งจะมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานปลอมแปลงหรือใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น
นอกจากนี้บุคคลที่จัดทำเพจเฟซบุ๊กปลอมรับทำและรับอบรมต่อใบขับขี่ปลอม ซึ่งถือเป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ก็จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า สำหรับการขอรับใบขับขี่ทุกชนิดมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ผู้ที่ต้องการขอรับใบขับขี่สามารถดำเนินการ ตั้งแต่การตรวจสอบเอกสาร การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย การอบรม การทดสอบข้อเขียน การทดสอบขับรถที่สำนักงานขนส่งหรือโรงเรียนสอนขับรถที่รับรองโดยกรมการขนส่งทางบก และการถ่ายรูปเพื่อออกใบอนุญาตขับรถต้องมาดำเนินการได้ที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น
สำหรับผู้ที่ต้องการขอรับใบขับขี่ใหม่สามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue สามารถเลือกสำนักงานขนส่ง วันและเวลา
ที่สะดวกได้ด้วยตนเอง ซึ่งอัตราค่าธรรมเนียมตามกฎหมายกำหนด (รวมค่าคำขอ) ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 205 บาท ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 105 บาท ในส่วนการต่ออายุใบขับขี่สามารถเข้ารับบริการได้โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า (walk in ) และยังอำนวยความสะดวกสามารถอบรมด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com ไม่ต้องเสียเวลาอบรมที่สำนักงาน อัตราค่าธรรมเนียมในการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล 505 บาท ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 255 บาท
เตือน! ประชาชนอย่าโพสต์ใบขับขี่ของตนเองลงโซเชียลมีเดีย เพราะเสี่ยงโดนกลุ่มมิจฉาชีพจะนำไปแอบอ้าง ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดพบเพจเฟซบุ๊กปลอมขอให้กดรายงานบัญชีหรือเพจเฟซบุ๊ก(report) หรือสามารถแจ้งเบาะแสมายังกรมการขนส่งทางบกได้โดยตรง หรือโทรสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน