วันที่ 3 ส.ค.66 เฟซบุ๊กเพจ World Forum โพสต์เรื่องราวของเด็กหญิงชาวจีนวัย 13 ปี หลังจากที่เธอป่วยจนครอบครัวต้องหามตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการป่วยด้วยโรคตับอักเสบรุนแรงและไขมันในเลือดสูง จากพฤติกรรมของเธอที่มักชอบกินแล้วนอน และมักกินของขบเคี้ยว ไม่กินมื้อหลัก

โดยเพจระบุข้อความเอาไว้ว่า ข่าวที่เป็นกระแส ขณะนี้ในจีน เด็กหญิงอายุ 13 ปี เธอป่วยโรคตับอ่อนอักเสบรุนแรงเข้าสู่ภาวะช็อก แพทย์ได้เจาะเลือดเขาออกมา 200 มล. กลายเป็นสีขาวขุ่นคล้ายน้ำข้าวโพด ในครึ่งปีเด็กหญิงเข้าโรงพยาบาล 2 ครั้ง

เด็กหญิงมีพฤติกรรมชอบทานของว่าง ของขบเคี้ยว ไม่ทานมื้อหลัก เธอชอบทานไอศกรีมแท่งเย็น รสเผ็ด มันฝรั่งทอด ฯลฯ ไม่ออกกำลังกาย ทำให้ไขมันในเลือดสูง เด็กหญิงเธอมีอาการปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียนบ่อย ตัวเปียกและเย็น และมีอาการช็อกเมื่อเข้าโรงพยาบาล

ในถุงคือไขมันที่ไม่ได้ย่อยจำนวนมาก "ภาวะไขมันในเลือดสูงสามารถทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบได้ โปรดใส่ใจกับการควบคุมอาหารด้วย มิฉะนั้น ตับอ่อนอักเสบจะมาหาคุณ" เป็นข้อความเตือนในจีนตอนนี้

เหวิน ซือฟาง แพทย์ผู้ดูแลเด็กหญิงรายนี้ กล่าวว่า เด็กหญิงป่วยด้วยโรคตับอ่อนอักเสบรุนแรงและไขมันในเลือดสูง เลือดที่ออกมามีสีขาวขุ่น เธอจำเป็นต้องเปลี่ยนพลาสมาและฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม

พ่อของเด็กหญิงบอกว่าหลังกินข้าวเสร็จ เด็กหญิงจะนอนบนโซฟาและเล่นโทรศัพท์มือถือทันที ขนะอาหารยังไม่ย่อย ในจีนยังเตือนให้หัน มาทานผักผลไม้ ลดเผ็ด ลดไขมัน หันมาออกกำลังกายในจีนยังเตือนให้หัน มาทานผักผลไม้ ลดเผ็ด ลดไขมัน หันมาออกกำลังกาย