หน้าแรก > ภูมิภาค

จ.นครพนม สำรวจความเสียหายหลังฝนตกหนักต่อเนื่อง เกิดน้ำไหลหลากหลายกระทบพื้นที่การเกษตร 3 อำเภอ ถนนถูกน้ำเซาะขาด 2 เส้นทาง

วันที่ 2 สิงหาคม 2566 เวลา 20:06 น.


ผู้ว่าฯ นครพนม ลงพื้นที่ติดตามผลกระทบจากอุทกภัย กำชับเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ย้ำเร่งสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลและแนวทางการรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ หากต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

วันนี้ (2 สิงหาคม 2566) นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยจังหวัดนครพนม มีฝนตกทั่วพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยตนพร้อมด้วย ปลัดจังหวัดนครพนม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม เกษตรจังหวัดนครพนม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ผู้นำชุมชน หมู่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมลงพื้นที่อำเภอธาตุพนมและอำเภอนาแก ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และให้กำลังใจแก่พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่

นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ในเบื้องต้น พบว่า จากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรและถนนได้รับผลกระทบ จำนวน 3 อำเภอ 15 ตำบล ได้แก่ 1) อำเภอนาแก มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 1 ตำบล คือ ตำบลพุ่มแก ถนนเพื่อการเกษตรถูกน้ำกัดเซาะขาด 1 เส้น ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ มีบ้านเรือนได้รับความเดือนร้อนจากการสัญจร 1 ครัวเรือน ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ โดยระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง 2) อำเภอธาตุพนม มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 3 ตำบล คือ ตำบลน้ำก่ำ จำนวน 6 หมู่บ้าน (บ้านทู้ หมู่ 6, บ้านสระพังทอง หมู่ 12, บ้านเหล่าเจริญ หมู่ 19, บ้านน้ำก่ำ หมู่ 18, บ้านโคกน้อย หมู่ 15, บ้านน้ำคำ หมู่ 5) ตำบลนาหนาด จำนวน 3 หมู่บ้าน (บ้านนาหนาดน้อย หมู่ 2, บ้านนาหนาดใหญ่ หมู่ 3, บ้านใหม่โพธิ์ศรี หมู่ 6) และ ตำบลฝั่งแดง จำนวน 3 หมู่บ้าน (บ้านต้อง หมู่ 1และหมู่ 5 บ้านโปร่ง หมู่ 7) เนื่องจากพื้น 3 ตำบลดังกล่าว เป็นพื้นที่รับน้ำช่วงปลายทางรอการระบายลงสู่แม่น้ำโขง จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีพื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบประมาณ 2,500 ไร่ ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ และระดับน้ำยังคงทรงตัว และ 3) อำเภอท่าอุเทน มีถนนได้รับผลกระทบ 2 สาย คือ ถนนสายนาผักปอด หมู่ 3 ตำบลโนนตาล เชื่อมบ้านดงยางทุ่งนาน้อย ตำบลนาขมิ้น อำเภอโพนสวรรค์ ถูกน้ำกัดเซาะถนนขาด ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และถนนสายเลียบห้วยตับแฮด บ้านโพน หมู่ 8 ตำบลโนนตาล ถูกน้ำกัดเซาะ ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ภาพรวมข้อมูลความเสียหายเบื้องต้นในวันนี้ มีพื้นที่ทางการเกษตรที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ รวมจำนวน 3,500 ไร่ และเส้นทางคมนาคม ได้รับความเสียหายจำนวน 4 สาย

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวต่อว่า ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยได้มอบหมายให้นายอำเภอนาแก และนายอำเภอธาตุพนม ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมสำรวจพื้นที่เสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับพี่น้องประชาชน เพื่อหาแนวทางป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้อำเภอนาแก ประสานหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 (นพค.22) นำสะพานชั่วคราวออกมาให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเบื้องต้น รวมทั้งได้ประสานให้องค์การบริหารส่วนตำบลพุ่มแก ดำเนินการก่อสร้างบล็อคคอนเวิร์สที่มีความมั่นคงถาวร เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในระยะยาว สำหรับการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบขณะนี้ได้ดำเนินการสำรวจความเสียหาย และพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการ โดยเมื่อสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติจะเร่งดำเนินให้ความช่วยเหลือจนกว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติครบถ้วนทุกครัวเรือน ในส่วนของอำเภอท่าอุเทน ได้มอบหมายให้นายอำเภอท่าอุเทนประสานองค์การบริหารส่วนตำบลรามราช เข้าดำเนินการสำรวจและซ่อมแซมถนนที่เสียหายหลังเข้าสู่สภาวะปกติ และกำชับให้ผู้ใหญ่บ้านหมั่นตรวจสอบดูแลฝายน้ำล้น เพื่อป้องกันปัญหาขยะและวัชพืชปิดกั้นทางน้ำ ซึ่งเป็นปัญหาสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การระบายน้ำทำงานได้ช้า

“จากการได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทำให้ในขณะนี้สามารถเข้าถึงและให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี ขอชื่นชมและขอขอบคุณพี่น้องข้าราชการ พนักงาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่ได้บูรณาการการทำงาน ด้วย Passion มุ่งมั่นตั้งใจในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชนได้ผ่านพ้นช่วงเวลาเลวร้ายและกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขในเร็ววัน ขอให้ทุกหน่วยงานยังคงติดตามสถานการณ์และบูรณาการภาคีเครือข่าย ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด โดยมีผู้นำท้องถิ่นท้องที่ ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอ แขวงทางหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม และโดยเฉพาะอาสาสมัครจิตอาสา มารวมพลังช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางภาครัฐอย่างใกล้ชิด เเละหากต้องการความช่วยเหลือ หรือได้รับความเดือดร้อนสามารถขอรับความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัย โทร. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าให้ความช่วยเหลือโดยทันที" ผู้ว่าฯ นครพนม กล่าวในช่วงท้าย

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม