หน้าแรก > ภูมิภาค

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ติดตามการช่วยเหลือเหตุโรงงานพลุระเบิดใน อ.ดอยสะเก็ด ล่าสุด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว

วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 เวลา 05:13 น.


ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามการให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุโรงงานพลุและดอกไม้ไฟระเบิดในอำเภอดอยสะเก็ด ล่าสุด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว พร้อมเตรียมถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เร่งตรวจสอบโรงงานผลิตและจำหน่ายพลุและดอกไม้ไฟทุกแห่ง ป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย

ค่ำวันที่ 24 ก.ค. 66 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 112 ม.14 บ้านสันทุ่งใหม่ ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุพลุและดอกไม้ไฟระเบิดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา โดยบ้านหลังดังกล่าวได้รับความเสียหายทั้งหลัง เนื่องจากเป็นพื้นที่เก็บพลุและดอกไม้ไฟ เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร  โดยพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย และบ้านเรือนใกล้เคียงเสียหายอีกกว่า 30 หลังคาเรือน

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ทั้งหมดได้คลี่คลายลงแล้ว  ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาสำรวจทางวิทยาศาสตร์ พบว่า บริเวณพื้นที่เกิดเหตุไม่มีสารที่เป็นวัตถุระเบิด หรือวัตถุอันตรายที่จะสามารถทำให้เกิดการระเบิดได้อีกแล้ว ขณะเดียวกันผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 8 ราย อยู่ระหว่างการดูแลรักษาพยาบาล ส่วนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ทางเทศบาลได้ดูแลประชาชนให้มีที่หลับที่นอนครบทุกหลังแล้ว อย่างไรก็ตามจะมีการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและตรวจสอบทุกพื้นที่ที่ได้มีการขออนุญาตประกอบกิจการเกี่ยวกับการครอบครอง จำหน่ายพลุและดอกไม้ไฟ เพื่อลดโอกาสในการเกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นอีก

ด้าน นายสาธิต คำหน่อแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลสันปูเลย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า โรงงานแห่งนี้มีใบอนุญาตสำหรับการครอบครองเพื่อจำหน่ายพลุและดอกไม้ไฟอย่างถูกต้อง โดยขอและต่อใบอนุญาตมาเกือบยี่สิบปีแล้ว  จากการตรวจสอบ ทราบว่า บ้านหลังนี้เคยเกิดอุบัติเหตุพลุระเบิดและเพลิงไหม้มาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้ทางเทศบาลจะพิจารณาต่อต่อไว่าเห็นควรจะใบอนุญาติให้กับผู้ประกอบการรายนี้อีกหรือไม่ เพื่อลดโอกาสความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุในลักษณะเช่นนี้อีกและเพื่อความปลอดภัยของคนในชุมชน

ทั้งนี้ ทางเทศบาลได้เปิดศูนย์อำนวยการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยและชาวบ้านในพื้นที่ พบว่า มีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกือบ 50 ราย พร้อมทั้งได้มีการปิดกั้นพื้นที่โดยรอบไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งรอให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่  

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม