หน้าแรก > อาชญากรรม

กรมการปกครอง จับ 2 ผับกลางเมืองบ้านโป่ง ยาเสพติด-อาวุธปืนเกลื่อน รวบ 400 นักเที่ยว

วันที่ 22 กรกฎาคม 2566 เวลา 08:44 น.


กรมการปกครอง ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดราชบุรี และกรมพินิจฯ บุกจับ 2 ร้านดัง กลางเมืองบ้านโป่ง ไร้ใบอนุญาตสถานบริการ เปิดยันเช้า ปล่อยเด็กเที่ยว ยาเสพติดเดลื่อน อาวุธปืน พบเจ้าของเดียวกันทั้งสองร้าน

22 กรกฎาคม 2566 บุกจับ"ผับเถื่อน" สองร้านดังเมืองบ้านโป่ง ราชบุรี เปิดเกินเวลา ปล่อยเด็กเที่ยว ยาเสพติดเกลื่อน ในครั้งนี้เป็นปฏิบัติการของกรมการปกครอง ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดราชบุรี บุกจับผับเถื่อน พร้อมกัน 2 แห่ง นักเที่ยวร่วม 400 พบยาเสพติดเกลื่อน ฉี่ม่วงอื้อ ปล่อยเด็กเข้า พกอาวุธ เปิดยันเช้า ใช้เทคนิคลงเวลาในบิลเป็นเท็จ โดยลดเวลาลง จากความเป็นจริง 2 ชั่วโมง พบเป็นเจ้าของเดียวกันทั้งสองร้าน

ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้น ภายใต้การอำนวยการของ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง นายไกรธวัช ทินโสม ปลัดจังหวัดราชบุรี

นายเกียรติศักดิ์ หอมเย็นใจ นายอำเภอบ้านโป่ง ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดราชบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน บุกเข้าทำการจับกุม ผับเถื่อน ชื่อร้านไฮไลท์ บ้านโป่ง และร้านอารีน่า บ้านโป่ง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรมการปกครอง ได้รับการประสานจากจังหวัดราชบุรี ว่ามีสถานประกอบการชื่อ “ร้านไฮไลท์ บ้านโป่ง” และ “ร้านอารีน่า บ้านโป่ง” ทั้งสองร้านตั้งอยู่ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

ทั้งสองแห่งเปิดให้บริการในลักษณะเป็นผับขนาดใหญ่ผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตสถานบริการ เปิดให้บริการถึงเช้า ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในร้าน ยินยอมให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ

ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จึงได้ส่งสายลับฝ่ายปกครองเข้าทำการสืบสวน ปรากฎข้อมูลการกระทำผิดจริง จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม

ทั้งนี้ สายลับฝ่ายปกครองยังพบว่า ทางร้านมีการลงเวลาในใบเสร็จค่าสุราเป็นเท็จ โดยมีการลงเวลาปรับลดจากเวลาที่แท้จริงลง 2 ชั่วโมง เพื่อใช้ต่อสู้ว่าขายไม่เกินเวลาเที่ยงคืน ซึ่งเป็นเวลาสุดท้ายที่กฎหมายกำหนดให้ขายได้

ต่อมา วันที่ 22 กรกฎาคม 2566 เวลา 01.30 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้สนธิกำลังเข้าทำการจับกุม เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงร้าน ได้กระจายกำลังจู่โจมเข้าปิดล้อมสถานบริการทั้งสองแห่ง ซึ่งนักเที่ยวซึ่งกำลังเต้นอย่างสนุกสนานและมีนักเที่ยวที่กำลังเสพยาอยู่ภายในร้าน ต่างตกใจวิ่งหนี แต่เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมทางออกไว้ทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถหลบหนีได้

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ และแยกอายุนักเที่ยว ซึ่งนักเที่ยวได้ทิ้งยาเสพติดลงเกลื่อนพื้นร้าน ส่วนใหญ่เป็นยาเคตามีนจำนวนหลายซอง

เจ้าหน้าที่พบว่าร้านทั้งสองแห่งไม่มีใบอนุญาตสถานบริการ ได้ทำการตรวจสอบปัสสาวะของนักเที่ยว พบมีสารเสพติดในปัสสาวะจำนวน 77 ราย แยกเป็นชาย 31 ราย เป็นหญิง 46 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจะนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อไป

ทั้งนี้ ยังมีการตรวจสอบพบเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 4 ราย โดยมีอายุ 17 ปี จำนวน 1 ราย อายุ 18 ปี  จำนวน 1 ราย และ 19 ปี จำนวน 2 ราย

เจ้าพนักงานปกครองชุดจับกุม ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายธนวัต วิจิตรจรัสกุล อายุ 30 ปี ที่แสดงตนเป็นเจ้าของร้านทั้ง 2 แห่งเจ้าของร้าน ดังนี้

1.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 
2.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด 
3.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
4.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่เหมาะสม
จากนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดจับกุม ชุดจับกุมจึงได้ทำการจับกุม นายธนวัต วิจิตรจรัสกุล อายุ 30 ปี นำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านโป่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในส่วน ของผู้ที่พกพาอาวุธปืนเข้าไปในสถานบริการไฮไลท์ อ้างตนเป็นตำรวจทั้งสองคน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้ตรวจยึดอาวุธปืนพร้อมกับส่งมอบตัวให้ทาง สภ.บ้านโป่ง ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดจับกุม จะเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พิจารณาสั่งปิดสถานที่ร้านไฮไลท์ บ้านโป่ง และร้านอารีน่า บ้านโป่ง เป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่ง หน.คสช. ที่ 22/2558 ลว. 22 ก.ค. 2558 ต่อไป

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวว่า  "สถานบริการทั้ง 2 แห่ง เป็นการเปิดสถานบริการในพื้นที่นอกเขตโซนนิ่งให้ตั้งสถานบริการ และไม่มีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด

อีกทั้ง ปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชนเข้าใช้บริการและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็ก ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และอาวุธปืน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนลุ่มหลงในอบายมุข อันขัดกับศีลธรรมอันดีของประชาชน

ขอฝากไปยังผู้ประกอบการสถานบริการทั่วประเทศขอให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ โดยประกอบธุรกิจให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 และคำสั่ง คสช.ที่ 46/2559

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะนี้ ขอให้ได้แจ้งไปที่ศูนย์ดำรงธรรม ทางหมายเลขโทรศัพท์ 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งไปยังฝ่ายปกครอง นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เพื่อที่จะได้ร่วมกันสร้างสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งความผาสุข และดำเนินการกับผู้กระทำความผิดให้ได้รับโทษตามกฎหมาย ไม่มีละเว้น

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม