ผบ.ตร.ยืนยันมีมาตรการดูแลการชุมนุมกลุ่มเห็นต่างทางการเมืองเต็มที่ พร้อมจับตาผู้ต้องหาคดีชุมนุมทางการเมืองทำผิดเงื่อนไขศาล จัดกำลังดูแล สว.-ตุลาการ หลังร้องขอถูกคุกคามข่มขู่ทางโซเชียล แต่ยังไม่ได้ดำเนินคดีใคร

วันนี้(21 ก.ค.66)พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยจากการชุมนุมของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ภายหลังจากการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบที่สองไม่ผ่านว่า ได้ให้แต่ละหน่วยได้จัดทำแผนดูแลความสงบเรียบร้อยในแต่ละพื้นที่ โดยจะดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ เป็นหลัก ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์ที่จะชุมนุมและแสดงความเห็นได้ตามกรอบกฎหมาย แต่ต้องมีการแจ้งการชุมนุมล่วงหน้าเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมกำลังเข้าไปดูแลความปลอดภัยด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากผู้ชุมนุม และเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี

สำหรับการชุมนุมในวันที่  27 กรกฎาคม ที่จะมีการชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภานั้น เจ้าหน้าที่ก็จะใช้แผนการปฏิบัติเดิม โดยจะต้องประเมินสถานการณ์ และการข่าวแบบวันต่อวันเพื่อปรับใช้ในวันจริง และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแทรกแซงสถานการณ์ยืนยันเจ้าหน้าที่จะปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถและเป็นไปอย่างประนีประนอม  ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีการนัดชุมนุมนั้น ก็ได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีประชาชนนำถุงปลาร้าไปขว้างใส่ที่ทำการสำงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.นั้น ก็จะนำเหตุการณ์ดังกล่าวมาปรับใช้ในการดูแลความปลอดภัยสถานที่ต่างๆที่มีความสุ่มเสี่ยง ส่วนผู้ที่ก่อเหตุนั้นก็จะต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ขณะที่เรื่องการรักษาความปลอดภัย กกต. สมาชิกวุฒิสภา และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น  จะให้ตำรวจในพื้นที่ดูแลหากมีการร้องขอ  ซึ่งยอมรับว่าขณะนี้มีการร้องขอเข้ามาบ้างแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ที่ร้องขอเข้ามาทั้งสองฝ่าย  ส่วนกรณีที่พบการโพสต์ข้อความคุกคามข่มขู่บุคคลต่าง ๆ ในโซเชียลมีเดียนั้น จะให้ตำรวจกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์รับผิดชอบดำเนินการต่อไป เบื้องต้นทราบว่ายังไม่ได้มีการดำเนินคดีกับใคร ส่วนกรณีมีผู้ชุมนุมประกาศจะปักหลักค้างคืน 11 วันที่หอศิลปกรุงเทพมหานครนั้นก็จะต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวภายใต้เงื่อนไขของศาลนั้น พนักงานสอบสวนก็จะคอยตรวจสอบพบการกระทำที่เข้าข่ายเงื่อนไข และจะเสนอศาลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป