วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 เวลา 13:22 น.
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.66 เวลา 20.30 น. หน่วยเฉพาะกิจพื้นที่ตอนใต้ จว.สตูล ศรชล.ภาค 3 (นก.พตต.ศรชล.ภาค 3) โดย น.อ.แสนย์ไท บัวเนียมผบ.นก.พตต.ศรชล.ภาค 3 พร้อมด้วย น.อ.รัฐพล แก้วกระจายหน.ศคท.จว.สต.ศรชล.ภาค 3 ได้บูรณาการกำลัง ศรชล.จว.สตูล, ศคท.จว.สตูล, สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูล และชุดปฏิบัติการพิเศษนก.พตต.ศรชล.ภาค 3 พร้อมเรือ ศรชล.2906 และเรือเจ้าท่า 188 ลาดตระเวนตรวจทางทะเลแนวเขตชายแดนทางทะเลไทย - มาเลเซีย บริเวณระหว่างเกาะยาวและเกาะกุรับ ในเขตน่านน้ำภายในราชอาณาจักรไทย พบเรือหางยาวทำด้วยไม้เครื่องติดท้าย จอดลอยลำอยู่ 2 ลำ ซึ่งมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย
ภายหลังเจ้าหน้าที่ ศรชล.จว.สตูล แสดงตัวเข้าตรวจสอบพบว่า กำลังทำการพ่วงลากจูง เนื่องจากเครื่องยนต์เรือเสีย จากการตรวจค้นระวางเรือลำที่เสียพบกระสอบบรรจุลูกพันธุ์หอยแครง ตรวจนับได้จำนวน 55 กระสอบ น้ำหนักกระสอบละ ๆ 25 กก. รวมน้ำหนัก 1,375 กก.
สอบสวน นายสุชาติ หมัดยาดำ เป็น ผู้ควบคุมเรือ และ นายสมภพ หมัดยาดำ เป็นลูกเรือ ไม่มีเอกสารประจำเรือและเอกสารแสดงสินค้า เจ้าหน้าที่จึงควบคุมผู้ต้องหาและตรวจยึดเรือพร้อมของกลาง นำมาจอดที่ท่าเทียบเรือสถานีตำรวจน้ำสตูล
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า ได้นำเรือไปรับลูกพันธุ์หอยแครงจากฝั่งมาเลเซีย จากเพียงว่าชื่อ "โกแดง" ชาว จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นคนไทยที่อยู่ฝั่งมาเลเซีย ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 1,000 บาท โดยนำเรือวิ่งกลับเข้ามาในน่านน้ำไทย แต่เครื่องยนต์เรือเกิดเสียกระทันหันจึงติดต่อ นายนาราเฮม เตะปูยู ซึ่งเป็นน้าชาย ให้ช่วยเอาเรือมาลากเรือเข้าฝั่งบริเวณตำมะลัง ท่าแพบังแอล และถูกจับกุมเสียก่อน
กระทั่งเวลา 02.30 น. จึงได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมบันทึกการจับกุมภายใต้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย พ.ศ.2565 ส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล - ศรชล.