วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 เวลา 10:45 น.
ชุดลาดตระเวนออนไลน์ ได้รับแจ้งเบาะแสติดตามจับกุมนางสาวสุนันทา หรือ แอปเปิ้ล อายุ 32 ปี อาศัยอยู่หมู่ 8 ตำบลจังหาร อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด คนร้ายที่มีแผนประทุษกรรมสุดอึ้ง ยัดเยียดความผิดให้ผู้บริสุทธิ์ ตนเองลอยนวล โดยทำทีมีพฤติกรรมเปิดร้านค้าขายกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านช่องทางอินสตราแกรม และเพจเฟซบุ๊ก เมื่อเหยื่อติดต่อขอซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม คนร้ายจะส่งเลขที่บัญชีธนาคารของร้านค้าอื่น (ซึ่งเป็นอีกกลุ่มผู้เสียหาย) เช่น ร้านเสริมสวย เครื่องสำอาง หรือ พวงมาลัยเงินสด
จากนั้นเมื่อเหยื่อโอนเงินไปให้บัญชีร้านค้านั้นๆ แล้ว คนร้ายจะขอสลิปโอนเงินแล้วนำไปส่งให้ร้านค้า โดยแจ้งกับร้านค้าว่า พี่สาว หรือ พี่ชาย ของตน เป็นคนโอนเงินไปให้แล้ว เมื่อร้านค้าได้เงินเสร็จเรียบร้อย ก็จัดส่งสินค้าให้คนร้าย โดยเหยื่อกลุ่มที่โอนเงินเพื่อสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ไม่ได้รับสินค้าจากคนร้ายและโดนบล็อคช่องทางการติดต่อ จึงเข้าใจว่าบัญชีธนาคารของร้านค้าที่คนร้ายส่งให้ (กลุ่มที่คนร้ายซื้อหรือใช้บริการ) นั้นเป็นบัญชีคนร้าย จึงได้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชีร้านค้า สร้างความเสียหาย 2 ล้านบาท และประชาชนผู้บริสุทธิ์ถูกดำเนินคดี โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณกลางซอยเอกชัย 47 เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่า “ตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เดิมทีประกอบอาชีพขายเสื้อผ้าแฟชั่นตามงานกาชาดประจำปีตามจังหวัดต่างๆ ต่อมาเมื่อมีสถานการณ์โควิดระบาด จึงเปลี่ยนมาประกอบอาชีพขายอาหารอีสานในพื้นที่จังหวัดยโสธร ก่อนจะหันมาเปิดรับพรีออเดอร์กระเป๋าแบรนด์เนม และ สินค้า IT อื่นๆ เช่น โทรศัพท์ ไอโฟน ผ่านอินสตาแกรม
แต่เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงิน หมุนเงินไม่ทันใช้จ่ายในครอบครัว จึงนำเงินที่ได้จากลูกค้าที่พรีออเด้อมาใช้ก่อนในช่วง 1 ปี แรก ต่อมาช่วงปีที่ 2 ที่ก่อเหตุ จึงคิดวิธีการเพื่อที่จะไม่ใช้บัญชีธนาคารของตนรับเงินจากลูกค้าโดยตรง คือ เมื่อมีลูกค้าสั่งกระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์ IT ตนจะส่งเลขที่บัญชีธนาคารของร้านค้าอื่นที่ตนจะใช้บริการ หรือสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เช่นกัน เช่น ร้านเสริมสวย ร้านเครื่องสำอางค์ ร้านพวงมาลัยเงินสด ไปให้เหยื่อกลุ่มที่ต้องการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม รองเท้า อุปกรณ์ IT โอนเงิน จากนั้นเมื่อเหยื่อโอนเงินไปให้บัญชีร้านค้านั้นๆ แล้ว ตนจะขอสลิปโอนเงินนั้นแล้วนำไปส่งให้ร้านค้าที่ตนใช้บริการและแจ้งร้านค้านั้นว่า พี่สาว หรือ พี่ชาย ของตน เป็นคนโอนเงินไปให้แล้ว เมื่อร้านค้าได้เงินเสร็จเรียบร้อยก็จัดส่งสินค้าให้ตน และตนก็จะทำการบล็อคช่องทางติดต่อกับลูกค้าที่สั่งซื้อกระเป๋าแบนด์เนม รองเท้า อุปกรณ์ IT ที่ผ่านมาก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2564 มูลค่าความเสียหายต่อราย รายละ 6,000 – 8,000 บาท มีลูกค้าหลงเชื่อสัปดาห์ละ 3 – 4 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 2,000,000 บาท
หลังเสร็จสิ้นการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และประสานให้พนักงานสอบสวน สภ.บางเลน และ สภ.วังน้อย อายัดตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป