ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ปรากฏคลิปที่ผู้หญิงรายหนึ่ง นำไข่สดตอกลงไปในกล่องไอศกรีมที่เป็นหลุมหลังจากมีคนก่อนนี้ตักไปรับประทาน เมื่อตอกไข่ลงไปแล้วก็สาธิตวิธีการทำ โดยละเลงไข่จนเต็มหน้าถังไอศกรีม เพื่อทำไอศกรีมไข่แข็ง แม้ว่าเพื่อนที่ไปด้วยกันจะเตือนแล้วเพราะกลัวทางร้านจะต่อว่า แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่สนใจ แถมบอกอีกว่า "เขาไม่ด่าหรอก"

ภายหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ได้มีชาวโซเซียลเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย ส่วนทางร้านได้โพสต์ชี้แจงผ่านเพจเฟสบุ๊กแล้ว โดยระบุว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ร้านเล็งเห็นความสำคัญเรื่องความสะอาดและการบริการกับลูกค้าทุกท่าน และได้เปลี่ยนถังไอศกรีมใหม่ทันทีที่ทราบเรื่อง

ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ 12 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านดังกล่าว ซึ่งเปิดเป็นร้านชาบู ไม่ใช่ร้านหมูกระทะตามที่ปรากฏในคลิป ก่อนจะพบกับ น.ส.วิยะดา  อายุ 44 ปี เจ้าของร้าน กล่าวถึงประเด็นที่เกิดขึ้นว่า ร้านเพิ่งเปิดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา หรือ 13 วัน เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.66) น้องที่สนิทกันได้ส่งคลิปมาให้ดู ก็ตกใจยังไม่เชื่อว่าจะเป็นร้านเรา ก็เลยบอกพนักงานว่าทำไมถึงไม่ดูแลลูกค้าให้ดี ถึงลูกค้าได้ทำแบบนี้ขึ้นได้ แต่พนักงานก็ยังไม่ทราบเลยว่ามีลูกค้ามาทำเช่นนี้ หลังจากทราบเรื่องจึงได้ทิ้งไอศกรีมถังดังกล่าว และเปลี่ยนถังใหม่แล้ว ซึ่งราคาถังละประมาณ 300 บาท

น.ส.วิยะดา กล่าวอีกว่า หลังจากคลิปดังกล่าวแพร่ออกไป เช้าวันนี้ (12 ก.ค.66) ทางลูกค้าที่กระทำดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้หญิงจำนวน 2 คน ได้เดินทางนำกระเช้าเข้ามาขอโทษแล้ว และบอกว่าไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น แค่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่คิดว่าโซเซียลจะแรง ทำให้เกิดดราม่าเช่นนี้ และเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ร้านเสียหาย พร้อมกับจะชดใช้ค่าเสียหายค่าไอศกรีมให้ แต่ตนปฏิเสธไม่รับ พร้อมทั้งตนจึงให้อภัย และไม่ได้ติดใจเอาความ แต่ได้พูดเตือนกับลูกค้ารายนั้นว่าอย่าไปทำพฤติกรรมเช่นนี้อีก

น.ส.วิยะดา กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากจะฝากถึงลูกค้าที่มาใช้บริการร้านเรา หรือร้านอื่นๆ ควรจะมีมารยาทในทางสังคม การกระทำเช่นนี้เหมือนเป็นการเห็นแก่ตัว หากทางร้านไม่พบสิ่งผิดปกติหรือไปเห็นคราบในถังไอศกรีมเสียก่อน หากมีลูกค้ารายอื่นไปกินต่อก็อาจจะมีอาการแพ้ และเป็นอันตรายต่อลูกค้ารายอื่นๆ ซึ่งอาจจะนำมาสู่ความเสียหายให้กับร้าน จึงอาจให้ระมัดระวังและคิดให้มากๆ สักหน่อย ก่อนหน้าจะเปิดร้านแห่งนี้ ตนก็เคยเปิดมาที่ อ.ปะเหลียน มาก่อน ตลอดที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก : AMARIN TV