หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบชาวอุซเบกิสถาน ลวงสาวร่วมชาติ ค้ากามพัทยา

วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เวลา 12:59 น.


มูลนิธิไนท์ไลท์และองค์กรโอยูอาร์ ได้พา น.ส.เอ  หญิงสาวชาวอุซเบกิสถาน อายุ 19 ปี มาแจ้งความว่าถูกกลุ่มคนร้ายชาติเดียวกัน หลอกให้มาทำงานเป็นแม่ครัวที่ประเทศไทย แต่จริงๆแล้ว พามาเพื่อมาค้าประเวณี ในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 โดยถูกบังคับให้ค้าประเวณีหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้รับเงินค้าบริการและถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย จึงได้หลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือต่อสถานทูตอุซเบกิสถาน จากนั้นทางสถานทูตฯ ได้ประสานให้ทางมูลนิธิฯ ให้เข้าช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจของผู้เสียหาย ก่อนพามาแจ้งความ

จากการสอบถาม น.ส.เอ ผู้เสียหาย เล่าว่า ถูก น.ส.ดิโลรมคน ซึ่งเป็นคนรู้จักและเป็นเพื่อน โดยรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ได้ชวนให้มาทำงานที่ประเทศไทย โดยอ้างว่ามีงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กของร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ พัทยา จ.ชลบุรี มีรายได้ดี มีที่พักให้ ซึ่งจะออกค่าเดินทางและค่าทำวีซ่าในการเดินทางให้กับผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงได้เดินทางมาประเทศไทย เนื่องจากต้องการหาเงิน ไปเป็นค่ารักษามารดาที่ป่วย และใช้ในการแต่งงาน โดยคิดว่าจะมาทำงานที่ประเทศไทยประมาณ 3 เดือน ซึ่งผู้เสียหายเข้าใจว่าได้รับวีซ่าการทำงานถูกต้องตามกฎหมาย จึงได้เดินทางมายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2566 พร้อมกับ น.ส.บี ผู้เสียหายอีกคน ซึ่งถูกหลอกให้มาค้าประเวณีด้วยเช่นกัน 

โดย น.ส.ดิโลรมคน มารับที่สนามบินสุวรรณภูมิ พาไปพักอาศัยที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่เมืองพัทยา ต่อมาได้พบกับนางแซมรัต อายุประมาณ 42 ปี ชาวอุซเบกิสถาน ซึ่งเป็นหัวหน้างานที่นี่ ได้บังคับให้ทำงานค้าประเวณี โดยให้ยืนหาลูกค้าที่บริเวณริมชายหาดพัทยา ใกล้กับวอลกิ้งสตรีท เมื่อได้ลูกค้าก็จะไปเปิดโรงแรมเพื่อให้บริการทางเพศในราคา 3,000-5,000 บาทต่อครั้ง ระหว่างนั้นยังมีการข่มขู่ โดยอ้างว่าผู้เสียหายเป็นหนี้ค่าเดินทาง ค่าจัดทำวีซ่า คนละ 5,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 175,000 บาท) หากผู้หญิงคนไหนไม่เชื่อฟัง จะถูกทำร้ายร่างกาย, กักขังและไม่ให้อาหาร ผู้เสียหายทั้งสองคนจึงจำยอมทำ โดยถูกบังคับให้ทำงานขายบริการไม่ต่ำกว่า 4 ครั้งต่อวัน ยืนรอแขกริมชายหาดตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถึง 6 โมงเช้า ถ้าหาลูกค้าไม่ได้ตามยอด ก็จะไม่ได้อาหาร โดยทุกวันจะได้รับอาหารเพียงวันละ 1 มื้อเท่านั้น 

จากนั้น นางแซมรัต ได้แจ้งกับทุกคนว่าให้เตรียมเอกสารเพื่อเดินทางไปขายบริการทางเพศที่ประเทศบาห์เรน เนื่องจากจะมีรายได้สูงกว่า น.ส เอ จึงตัดสินใจหลบหนีออกมา โดยได้รับความช่วยเหลือจากนางเอ็น  ผู้เสียหายอีกคน ให้เงินค่าแท็กซี่เพื่อหลบหนี

จากนั้นตำรวจลงพื้นที่ พบผู้เสียหายเพิ่มเติมอีก 2 คน ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่เมืองพัทยา คือนางเอ็น อายุ 42 ปี ชาวอุซเบกิสถาน ซึ่งถูกเพื่อนหลอกมาเช่นกัน   

จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นางแซมรัต ออกนอกประเทศไปแล้วเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 โดยได้เดินทางประเทศบาห์เรน จึงสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ส่วนผู้ต้องหาที่จับได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยให้การว่าผู้ต้องหาเพียงรู้จักกับนางแซมรัต เนื่องจากมีภูมิลำเนาอยู่หมู่บ้านเดียวกัน โดยทราบพฤติการณ์ว่านางแซมรัต เป็นนายหน้าเป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณีจริง แต่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือได้รับประโยชน์ใดๆ จากหญิงขายบริการ  

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม