ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) จับกุม ร่วมกันจับกุม นายบรรจงฯ อายุ 39 ปี (ผู้ขับขี่) ผู้ต้องหาที่ 1, นายคัมมะลาปาติฯ อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาที่ 2, นายจัยกุมาฯ อายุ 29 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาที่ 3, นายลาย วิน ม่องฯ อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาที่ 4, นายติ มอง เต่อฯ อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาที่ 5, นายซิ ตู เลฯ อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาที่ 6, นายกันนายาฯ อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา  ผู้ต้องหาที่ 7, นายซิบ โย่ว โซ่ว อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาที่ 8, นางสาวนวย นีฯ อายุ 19 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ต้องหาที่ 9 ฐานความผิด ผู้ต้องหาที่ 1 กระทำผิดฐาน “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และผู้ต้องหาที่ 2-9 กระทำผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”พร้อมตรวจยึดของกลาง โดยจับกุมได้ บริเวณ กม.17-18 ทล.347 ถ.บางปะหัน-ปทุมธานี (ขาเข้า) ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

สืบเนื่องตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ให้กวดขันจับกุมการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สำรวจเส้นทาง ทล.347 พบรถยนต์นั่งสามตอนสีเทา ต้องสงสัยโดยมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้ต้องหาที่ 2 - 9 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางนั่งมาในรถคันของกลาง โดยผู้ต้องหานั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 ให้การยอมรับว่า ได้รับการประสานจากชาย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ประสานงานให้ไปรับแรงงานต่างด้าว จำนวน 8 คน โดยได้รับค่าจ้าง 2,000 บาท/คน โดยจะมีชายไทย ชื่อนายเพ่ง (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) เป็นผู้ขับขี่รถยนต์นำทางโดยนายเพ่งจะเป็นคนทำหน้าที่ตรวจสอบตามเส้นทางว่ามีด่านตรวจหรือไม่และได้มีการโทรสายตลอดเวลา และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 8 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และกระทำแบบนี้มาแล้วประมาณ 3 ครั้ง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป