สำนักข่าวต่างประเทศ (บีบีซี และ ซีบีซี) รายงานวันที่ 23 มิ.ย.ถึงความคืบหน้าเหตุเรือโดยสารผู้อพยพ อับปางในมหาสมุทรแอตแลนติก นอกชายฝั่ง หมู่เกาะกานาเรียส หรือ คาแนรี ซึ่งเป็นแคว้นปกครองตนเองหมู่เกาะของสเปน และห่างจากเกาะกรันกานาเรียราว 160 กิโลเมตร เมื่อวันพุธที่ 21 มิ.ย.ตามเวลาท้องถิ่นว่า

เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้แล้ว 24 คน และคาดว่าจะมีผู้อพยพมากกว่า 30 ราย ที่จมน้ำเสียชีวิต ขณะที่ น.ส.เฮเลนา การ์ซอน จากองค์กรการกุศลวอล์คกิง บอร์เดอร์ส ของสเปน เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิต 39ราย รวมถึงเด็กทารก 1 ราย
รายงานระบุอีกว่าเรือกัวร์ดามาร์ แคลลีโอพี เรือกู้ภัยของสเปน ซึ่งอยู่ห่างจากเรือโดยสารผู้อพยพประมาณหนึ่งชั่วโมงเดินเรือเมื่อเย็นวันอังคารที่ 20 มิ.ย. แต่ไม่ได้เข้าช่วยเหลือ เพราะเจ้าหน้าที่หน่วยงานยามชายฝั่งของโมร็อกโกส่งเรือลาดตระเวนมาตรวจตราสถานการณ์ ในช่วงเช้าวันพุธ และ 10 ชั่วโมงต่อมา เครื่องบินกู้ภัยของสเปนพบว่าเรือลำดังกล่าวอับปางแล้ว

นายแองเจิล วิกเตอร์ ตอร์เรส ประธานฝ่ายบริหารหมู่เกาะกานาเรียส กล่าวว่าเหตุการณ์นี้เป็นโศกนาฏกรรมและเรียกร้องขอให้สหภาพยุโรป (อียู) เร่งดำเนินนโยบายตอบสนองต่อวิกฤตการย้ายถิ่นฐานของผู้อพยพซึ่งส่วนใหญ่เดินข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาตั้งหลักปักฐานในยุโรป แม้หมู่เกาะกานาเรียสจะอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกของทวีปแอฟริกา แต่เพราะเป็นส่วนหนึ่งของสเปนจึงมีผู้อพยพจำนวนมากเดินทางมายังหมู่เกาะก่อนเดินทางต่อไปยังยุโรปแผ่นดินใหญ่

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเรือโดยสารผู้อพยพ ล่มนอกชายฝั่งของประเทศกรีซ เมื่อ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิต 79 ราย แต่คาดว่าอาจสูงถึง 600 ราย เนื่องจากเรือบรรทุกผู้โดยสารเกินพิกัดถึง 750 คน