หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบคู่ สามี - ภรรยา ตุ๋นขายโครงการที่ดินทิพย์ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

วันที่ 16 มิถุนายน 2566 เวลา 09:27 น.


กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุม  1.นางสาวพิชามญชุ์ หรือเปิ้ลฯ อายุ 44 ปี  “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” และ2.นายคณิศรฯ อายุ 44 ปี ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” โดยจับกุม ทล.201 กม.29 ต อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ต่อเนื่อง บริเวนริมถนน อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

จากกรณี ที่เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 มีผู้เสียหายกว่า 200 คน รวมตัวแจ้งความที่จ.เชียงใหม่ หลังถูก นางพิชามญชุ์ หรือเจ๊เปิ้ล และ สามีหลอก ให้ซื้อที่ดินทิพย์ ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยอ้างว่าจะขายเป็นเงินผ่อนรายเดือนระยะยาวไม่มีดอกเบี้ย ในพื้นที่ อ.สารภี , อ.แม่ริม , อ.สันกำแพง  และพื้นที่ อ.เมือง จ.ลำพูน พร้อมทั้งมีการขึ้นป้ายโฆษณาทางสื่อออนไลน์ ระบุว่า ขายที่ดินราคาถูก จนมีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อแลกกับที่ดินทิพย์เหล่านั้น  มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 100 ล้านบาท

พฤติการณ์ของสามี ภรรยา คู่นี้ จะใช้วิธีการขึ้นป้ายโฆษณา ตามจุดย่านชุมชน ลงโฆษณาใน โซเชียลมีเดีย ขายที่ดินจัดสรรในราคาถูก ซึ่งมีการระบุตัวเลขราคาชัดเจน รวมถึงสามารถผ่อนชำระ กับทางบริษัทโดยตรง ไม่ผ่านสถาบันการเงินหลัก ใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น ซึ่งสามารถทำการจองและซื้อได้ทั้งคนไทย และคนต่างด้าว ทำให้ประชาชนที่ต้องการมีที่ดิน หลงเชื่อเข้าไปติดต่อซื้อ ที่ดิน โดยในสัญญา จะมีการอ้างผ่อนชำระ แบบไม่เสียดอกเบี้ย  และผ่อนชำระเกิน 6 เดือน สามารถเข้าไปสร้างที่อยู่อาศัยได้ บางคนผ่อนครบสัญญา แต่ไม่สามารถ โอน กรรมสิทธิ์ ได้ จึงนำไปสู่การตรวจสอบ กลับพบว่า ที่ดินที่ตนเองซื้อ ไม่ใช่ที่ดินของบริษัท

ซึ่งผู้เสียหายหลายคนในจำนวนนั้น นอกจากคนไทยแล้ว ยังมีคนต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานในจังหวัดเชียงใหม่ หลายคนมีครอบครัว และมีความหวังจะมีที่ดิน ปลูกบ้านเป็นไว้เป็นทรัพย์สมบัติให้ลูก บางรายใช้เงินเก็บที่รับจ้างมาทั้งชีวิตมาวางมัดจำและผ่อนจ่ายเงินงวดตามสัญญา ซึ่งบางรายสูญเงินรวมไปกว่า 500,000 บาท แต่กลับพบว่า เป็นที่ดินทิพย์ เมื่อพยายามติดต่อเพื่อยกเลิกสัญญา และ ขอเงินคืน กลับถูกเพิกเฉย 

นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกซื้อที่ดินทิพย์ สูญเงินไปกว่า แสนบาท ก่อนที่เวลาต่อมาจะเกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตพร้อมภรรยา ส่วนลูกสาว วัย 8 ปี บาดเจ็บสาหัส ซึ่งน้องชายของผู้เสียหายได้พยายามติดต่อขอคืนเงินจากผู้ต้องหาเพื่อจะนำมาเลี้ยงดูหลานสาว กลับถูกปฏิเสธ และติดต่อไม่ได้ จึงร้องขอให้ตำรวจเร่งตามจับกุมตัวมาโดยเร็ว
ต่อมา ทางตำรวจสภ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย กระทั่งวันที่ 14 มิ.ย. 2566 ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ประสานมายังตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ให้ช่วยติดตามจับกุมนางสาวพิชามญชุ์ฯ และนายคณิศรฯ ผู้ต้องหาสองสามีภรรยา

หลังจากได้รับการประสานข้อมูล พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ ตำรวจทางหลวง  ร่วมกับตำรวจกองปราบปราม ทำการวิเคราะห์ข้อมูล จนเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสอง จะใช้เส้นทางถนนหลวง เชียงใหม่-นครราชสีมา เป็นเส้นทางหลบหนี ตำรวจทางหลวง จึงวางแผนตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อปิดกั้นช่องทางหลบหนี บนเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีทันทีหลังจากได้รับการประสานข้อมูลจากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง ออกจากปั้มน้ำมัน ในพื้นที่ ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร มุ่งหน้าไปยัง จ.นครราชสีมา 

ต่อมาวันที่ 15 มิ.ย. 2566 เจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการสืบสวนข้อมูล จากรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริสสีแดง ที่ผู้ต้องหาใช้หลบหนีการจับกุม พบว่ากำลังใช้ ทางหลวง หมายเลข 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว มุ่งหน้าเข้า จ.นครราชสีมา จึงได้ประสานข้อมูลตำรวจทางหลวงในพื้นที่รับผิดชอบเข้าทำการสกัดจับ พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง ตรงตามข้อมูลที่แจ้ง จึงได้เรียกให้หยุด เพื่อทำการตรวจสอบ ก่อนจะพบว่า ผู้ขับขี่ คือนางสาวพิชามญชุ์ฯ ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวอยู่ จากนั้นจึงได้เกลี้ยกล่อมนางสาวพิชามญชุ์ฯ เพื่อให้ติดต่อไปยังนายคณิศรฯ ผู้ต้องหาอีกรายซึ่งเป็นสามีจนยอมมอบตัว ในพื้นที่อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามผู้ต้องหาทั้งสองเบื้องต้น ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า พวกตนไม่รู้เห็นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงดังกล่าวแต่อย่างใด

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม