วันที่ 9 มิถุนายน 2566 เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลนครพิงค์ โพสต์ข้อความเตือนเป็นอุทาหรณ์ ชายชาวพม่าอายุ 29 ปี ใส่ห่วงโลหะรัดที่โคนอวัยวะเพศมานาน 1 สัปดาห์ ด้วยความเชื่อว่าจะทำให้อวัยวะเพศใหญ่ขึ้น ต่อมาอวัยวะเพศมีอาการบวมคล้ำ ผิวหนังแตกเป็นแผลมีหนอง มีอาการเจ็บปวด บวมมากจนไม่สามารถเอาห่วงออกได้ จึงมาตรวจที่โรงพยาบาลนครพิงค์

ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลนครพิงค์ ได้ใช้อุปกรณ์สำหรับตัดโลหะ ตัดห่วงและถอดออกได้อย่างปลอดภัย จากนั้นได้ให้ยาปฏิชีวนะและรักษาแผลจนอาการดีขึ้นจึงอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้

ศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การใส่ห่วงโลหะรัดอวัยวะเพศไว้เป็นเวลานานอย่างเช่นในกรณีผู้ป่วยรายนี้ จะทำให้เกิดการคั่งของเลือดและน้ำเหลือง ผิวหนังแตกติดเชื้อ อวัยวะเพศขาดเลือด ส่งผลให้สูญเสียสมรรถภาพทางเพศถาวร,เนื้อเน่าตายหรืออาจถึงขั้นต้องตัดอวัยวะเพศทิ้ง ซึ่งเป็นกรณีที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากยังคงมีความเชื่อผิดๆ และสามารถหาซื้อห่วงเหล่านี้ได้ง่ายทั่วไป รวมถึงในช่องทางออนไลน์ มีหลายแบบหลายขนาดให้เลือก

นอกจากกรณีนี้ยังมีการพบผู้ป่วยที่มีความพยายามที่จะดัดแปลงอวัยวะเพศชายโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการฉีดน้ำมันที่อวัยวะเพศ การใช้ห่วงรัดรวมถึงการฝังสิ่งแปลกปลอมที่อวัยวะเพศ ซึ่งก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายตามมา เช่น แผลติดเชื้อ,เนื้อเน่าตาย ติดเชื้อในกระแสเลือด การผ่าตัดแก้ไขก็มีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นจึงขอย้ำเตือนให้ประชาชนระมัดระวังถึงอันตรายจากการกระทำดังกล่าว หากท่านมีปัญหาด้านสุขภาพทางเพศ แนะนำพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาที่เหมาะสม

ขอบคุณ - นพ.ประพนธ์ เปี่ยมอนันต์ ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ
  - งานประชาสัมพันธ์ กลุ่มงานดิจิทัลทางการแพทย์