วันที่ 8 มิถุนายน 2566 เวลา 18:50 น.
วันนี้(8 มิ.ย.66) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดโครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2023 ชูคอนเซปต์ “Hunting Season” พร้อมดีลสุดพิเศษจากผู้ประกอบการ 6 จังหวัดท่องเที่ยว ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี ชลบุรี(พัทยา) และสงขลา (หาดใหญ่) เพื่อกระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว รวมทั้งตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการชอปปิงระดับโลก คาดปั๊มรายได้หมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 75 ล้านบาท
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน - 15 สิงหาคม 2566 ภายใต้แนวคิด “Hunting Season” มอบความสุขและสร้างอิสระในการจับจ่ายในยุคหลังโควิดกับกิจกรรมล่าดีลเด็ดกว่า 10,000 รายการ จากผู้ประกอบการและร้านค้าเข้าร่วมโครงการกว่า 10,000 ร้านค้าจากเมืองท่องเที่ยวหลักทั้ง 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี ชลบุรี (พัทยา) สงขลา (หาดใหญ่) เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวและเป็นโอกาสในการเข้าถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในราคาพิเศษ ทั้งตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็น 1 ใน 6 จุดหมายปลายทางของการชอปปิง (Shopping Destination) ที่ทั่วโลกอยากมาเยือน โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มตลาดระยะใกล้ จากภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินเดีย และนักท่องเที่ยวชาวไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง ชื่นชอบกิจกรรมชอปปิงและชอบสินค้าจากประเทศไทย
โดย ททท. มุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการนำเส นอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และคุ้มค่า ควบคู่กับการส่งเสริม Soft Power เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว และส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความหมาย
ททท. เริ่มต้นสร้างบรรยากาศแห่งการใช้จ่ายด้วยกิจกรรม Shopping Challenge โดยเชิญ KOL Influencer จากภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ทั้งหมด 12 ทีม ร่วมแข่งขันชอปปิงตามโจทย์ในห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่บริเวณแนวรถไฟฟ้า จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์, ศูนย์การค้า Siam Discovery, ศูนย์การค้า Gaysorn Village , ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ , ห้างสรรพสินค้า The EmQuartier และ ศูนย์การค้า Terminal 21 โดยผู้ชนะเลิศ รับเงินรางวัล 20,000 บาท และ Voucher ที่พักมูลค่า 40,000 บาท อันดับที่2 รับเงินรางวัล 10,000 บาท และ Voucher ที่พักมูลค่า 20,000 บาท และ อันดับ 3 เงินรางวัล 5,000 บาท และ SPA Package มูลค่า 5,000 บาท รวมมูลค่าของรางวัลกว่า 100,000 บาท และ กิจกรรมล่าดีลเด็ด พบส่วนลดสูงสุด 80% จากร้านค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ สายการบิน โรงแรม สปา และชอปปิงแพลตฟอร์ม พร้อมลุ้นรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ จากแคมเปญ 3 Get กล่าวคือ “Get ที่ 1 Get สมบัติ” เมื่อซื้อสินค้าและบริการ ณ ร้านค้าที่ร่วมโครงการฯ ครบทุก 500 บาท ต่อ 1 สิทธิ์ ลุ้นรับรางวัลใหญ่แพ็กเกจที่พักโรงแรมระดับ 5 ดาว จำนวน 3 วัน 2 คืน,ทองรูปพรรณ ,โทรศัพท์ iPhone 14 (ความจุ 128G) ,บัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับ เส้นทางในประเทศ ฯลฯ รวม 200 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 2.5 ล้านบาท
ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมสนุกและลุ้นรับรางวัลได้ทุกสัปดาห์ ผ่านช่องทาง Line official @thailandgrandsale โดยจะประกาศผลรางวัลทุกวันศุกร์ “Get ที่ 2 Get คราฟต์ไทย” สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดย ททท. ร่วมกับ Vat Refund แจกของที่ระลึกจาก 5 ชุมชน จำนวน 20,000 ชิ้น ซึ่งเป็นงานคราฟต์จาก 5 ชุมชน เช่น Griptok รูปเเบบถาดอาหารไทยโบราณ ผ้าโพกผมมัดย้อมจากเปลือกโกโก้ไทยแห่งลุ่มน้ำปัว จ.น่าน พัดสานบ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา กระเป๋าย่ามช้างผ้าทอ สินค้าจากชุมชนแม่คำมี จ.แพร่ และกระเป๋ากระจูดย้อมสี จาก จ.พัทลุง เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อสินค้าและบริการในร้านค้าที่รับ Vat Refund ณ ศูนย์การค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้ง 6 จังหวัด ครบ 5,000 บาท และนำหลักฐานใบเสร็จเพื่อรับของที่ระลึกได้ที่เคาน์เตอร์ Vat Refund ณ ท่าอากาศยาน ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ และ “Get ที่ 3 Get อิ่มใจ” โดย ททท. ร่วมกับ Artstory By AutisticThai ธุรกิจเพื่อสังคมของกลุ่มเด็กพิเศษและบุคคลออทิสติก ร่วมกันรังสรรค์พรสวรรค์และจินตนาการผ่านภาพลายเส้น จัดทำกระเป๋าชอปปิงลายหน้าเพื่อน (ลาย Signature) จำนวน 10,000 ใบ (มูลค่าใบละ 450 บาท) สำหรับแจกนักท่องเที่ยว เมื่อซื้อสินค้าและบริการครบ 3,000 บาท สามารถแลกรับกระเป๋าได้ที่จุดบริการลูกค้าภายในห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรอื่น ๆ เช่น กิจกรรม TikTok Creators Challenge กิจกรรม See Post Get Code ผู้ที่เห็นรีวิวสินค้าภายใต้โครงการฯ จะได้รับโค้ดส่วนลดทันที กิจกรรม LIVE Flash Sale ไลฟ์นำเสนอสินค้าในราคาส่วนลด 80% ขึ้นไป ในวัน Pay Day (8.8 ผ่านแพลตฟอร์มชอปปิงออนไลน์ และกิจกรรม Troop ที่จะเดินทางไปสร้างความสุข สนุก เล่นเกมแจกของรางวัลทั้ง 6 พื้นที่เป้าหมาย
สำหรับในปีนี้ ททท. ร่วมกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างมากมาย โดยมีพันธมิตรหลักที่สนับสนุนโครงการ ประกอบด้วย กรมสรรพกร (VAT Refund) กลุ่มพันธมิตรด้านการชอปปิง Asset World Corporation, Big C, Central Group, Diana หาดใหญ่, Gaysorn Villege, Jungcylon ภูเก็ต, King Power, Lotus’s, Maya เชียงใหม่, MBK Group, Siam Piwat, Terminal 21, The Mall Group, UD town อุดรธานี และ Odean หาดใหญ่ กลุ่มพันธมิตรด้านการเดินทาง Thai Airasia, Bangkok Airways, Thai Smile, Thai Vietjet, Biz Car Rent, Chic Car Rent, Thairoute กลุ่มพันธมิตร e-commerce Lazada, Shopee กลุ่มพันธมิตร OTA/super app/application agoda, airasia super app, Traveloka, utu application, YAKS application กลุ่มพันธมิตรด้านที่พัก Cape&Kantary Hotels, Centara Hotels & Resorts, Cross Hotels & Resorts, Dusit Hotels & Resorts, Hotel MOCO, Tolani Hotels และโรงแรมกลุ่ม Asset world กลุ่มพันธมิตรด้านสุขภาพและความงาม DERMASTER, Let's Relax, PAN Clinic และ PRIVÉ by DR.TOY กลุ่ม Member Club บัตรเครดิต KTC, UnionPay และ VISA กลุ่มพันธมิตรด้านบริการอื่นๆ Blu-O Rhythm & Bowl, FIT Auto, FIXX-Care for Car, Major Cineplex, Otteri, Siam Niramit และ Sub-Zero Iceskate
.
ททท. เชื่อมั่นว่า โครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2023 จะเป็นโครงการทางการตลาดที่สำคัญในการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวและเพิ่มค่าใช้จ่ายในช่วง Green Season ได้เป็นอย่างดี คาดว่าจะผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 200,000 คน สร้างรายได้รวมให้กับพันธมิตรไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท กระจายรายได้หมุนเวียนให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไม่น้อยกว่า 75 ล้านบาท ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลและโปรโมชันดี ๆ ได้ที่ Facebook : Amazing Thailand Grand Sale หรือ LINE OA : Amazing Thailand Grand Sale หรือศึกษารายละเอียดโครงการได้ที่ www.amazingthailandgrandsale.com
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์